ศัลยกรรมเสริมคาง กับหมอกัน
ปัจจุบัน “การเสริมคาง” นับว่าเป็นอีกหนึ่งศัลยกรรมยอดนิยม เพราะคางถือว่าเป็นจุดเด่นอีกหนึ่งจุดบนใบหน้า ซึ่งคางช่วยปรับให้หน้าวี หน้าเรียว ช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้สวยรับทรัพย์ หลายคนจึงหันมาให้ความสนใจในเรื่องของ “การเสริมคาง” มากขึ้น โดยการเสริมคางมักนิยมทำคู่กับการเสริมจมูก ซึ่งจะช่วยปรับรูปหน้าให้รับกันไปพร้อมๆ กัน นอกจากนั้นการเสริมคางยังเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาคางสั้น คางเหลี่ยม คางบุ๋ม หรือคางเบี้ยว ให้กลับมามีคางที่สวยงามอีกครั้ง
เสริมคางกับหมอกัน มีทั้งหมดกี่แบบ?
รูปแบบ “การเสริมคาง” ในปัจจุบันก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ สาวๆ คนไหนที่อยากเสริมคางก็ควรหาข้อมูล หารายละเอียดของการเสริมคางให้ดีก่อน โดยนอกจากจะเลือกคลินิกเลือกโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือแล้ว ก็ควรเลือกศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ จะได้เพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้น ซึ่งการเสริมคางของหมอกันมี 2 แบบด้วยกัน คือ
- ซิลิโคนไซต์ S: เหมาะสำหรับการเสริมคางของคนไข้ที่หน้าเล็ก และมีปัญหาคางตัด
- ซิลิโคนเหลาใหม่แบบพิเศษ Premium: เหมาะสำหรับการเสิรมคางของคนไข้ที่ต้องการออกแบบซิลิโคนให้เข้ากับรูปหน้าตัวเองโดยเฉพาะ ให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

เสริมคางแผลใน จะมีข้อดีคือบวมช้ำน้อย รอยต่อน้อย ไม่เห็นรอยแผลเป็นด้านนอก แต่ต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดช่องปาก เพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบและการติดเชื้อ
เสริมคางแผลนอก ข้อดีคือการดูแลรักษาแผลรอยผ่าตัดจะง่ายกว่าแผลใน เนื่องจากอยู่ด้านนอก แต่ข้อเสียคืออาจจะมีรอยแผลเป็นบริเวณใต้คาง

การเสริมคาง ของหมอกัน จะเป็นการผ่าตัดเล็ก โดยใช้ซิลิโคนชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในการเสริมจมูก มาเหลาปรับทรงตามความเหมาะสม จากนั้นก็นำมาใส่บริเวณคาง การเสริมคางด้วยซิลิโคนของหมอกันนิยมทำแผลใน แต่บางเคสที่เคยทำแผลนอกมาแล้ว หมอจะทำแผลนอกให้
เสริมคางแผลใน คือการผ่าตัดแบบเปิดแผลในปาก วิธีนี้หมอจะทำการเปิดแผลด้านในปากบริเวณซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง ความยาวของแผลประมาณ 2 ซม. มีข้อดีคือบวมช้ำเล็กน้อย รอยต่อน้อย ไม่เห็นรอยแผลเป็นด้านนอก แต่ต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดช่องปากเพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบและการติดเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคนไข้จะเลือกเสริมคางแบบแผลในมากกว่า
ใครที่เหมาะกับการเสริมคาง?
ใช่ว่าผู้ที่มีปัญหาคางสั้น – คางหลบ ทุกคนจะสามารถเสริมคางแล้วได้ผลดีเสมอไป ผู้ที่เหมาะสมต่อการเสริมคางยังต้องมีโครงสร้างส่วนของฟันและกรามที่มีความแข็งแรง และทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี รวมทั้งมีภูมิต้านทานร่างกายที่ดีพอ เพื่อป้องกันอาการอักเสบหรือติดเชื้อภายหลังการทำศัลยกรรม นอกจากการศัลยกรรมเสริมคางแล้ว ในบางกรณีศัลยแพทย์อาจพิจารณาว่าผู้ป่วยควรปรับแก้ไขรูปหน้าส่วนล่างโดยการฉีดฟิลเลอร์ร่วมด้วย เพื่อให้เห็นรูปคางที่ชัดเจนและสวยงามมากยิ่งขึ้น สำหรับการเลือกขนาดซิลิโคนที่จะใช้ แพทย์จะให้คำแนะนำในการเลือกขนาดของซิลิโคนก่อนผ่าตัด เพื่อให้เหมาะสมกับรูปหน้าของแต่ละคน ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับคนไข้ด้วยว่าต้องการยาวมากน้อยแค่ไหน นอกจากนั้นการเลือกขนาดต้องคำนึงถึงองค์ประกอบของรูปหน้าอีกด้วย เพื่อไม่ให้คางที่เสริมออกมาดูยาวจนเกินไป
คนไข้แต่ละเคสแพทย์จะให้คำแนะนำในการเลือกขนาดของซิลิโคนเสริมคางก่อน เพื่อให้เหมาะสมกับรูปหน้าของแต่ละคนมากที่สุด
ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมคาง
- ขั้นตอนที่ 1 : แพทย์จะให้แนะนำเกี่ยวกับซิลิโคนที่ใช้ และทำการตรวจวัดเค้าโครงหน้า ดูขนาดเดิมของคาง เพื่อเลือกตำแหน่งและขนาดของซิลิโคนที่เหมาะสมเข้ากับใบหน้าของแต่ละบุคคล
- ขั้นตอนที่ 2 : หลังจากตรวจเค้าโครงหน้าแล้ว แพทย์จะทำการเหลาซิลิโคนตามขนาดที่เหมาะสมเพื่อให้เข้ากับรูปหน้า
- ขั้นตอนที่ 3 : ก่อนทำการผ่าตัดแพทย์จะทำความสะอาดบริเวณใบหน้า และภายในช่องปาก
- ขั้นตอนที่ 4 : หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้ว แพทย์จะทำการวาดเส้นเพื่อกำหนดตำแหน่งที่ชัดเจนก่อนทำการผ่าตัด
- ขั้นตอนที่ 5 : กำหนดตำแหน่งแล้วแพทย์จะใช้ยาชาฉีดบริเวณที่ทำการผ่าตัดเสริมคาง
- ขั้นตอนที่ 6 : สำหรับการผ่าตัดแพทย์จะทำการเปิดแผล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะเสริมคางจากด้านในช่องปากหรือภายนอกช่องปาก
- ขั้นตอนที่ 7 : เมื่อเปิดแผลแล้วแพทย์จะใส่ซิลิโคนขนาดที่เตรียมไว้ในตำแหน่งที่กำหนด
- ขั้นตอนที่ 8 : ขั้นตอนสุดท้ายแพทย์จะทำการเย็บปิดบาดแผล (หากใช้ไหมละลาย ไหมจะละลายไปเองภายใน 10 วัน)
การดูแลตัวเองหลังเสริมคาง
- ช่วงแรกเน้นทานอาหารอ่อน รสชาติไม่จัดมาก
- หลังเสริมคาง ให้หมอนหนุนศีรษะให้สูงขึ้น เพื่อลดการคลั่งตัวของเลือดที่จะทำให้เกิดอาการบวม
- อย่าแกะเฝือกดามคางออกก่อนกำหนด
- ห้ามท้าวคาง เพราะจะทำให้ซิลิโคนเบี้ยวได้
- ทานยาตามที่หมอกำหนด และถ้าหากเกิดอาการผิดปกติใดๆ แนะนำว่าควรมาปรึกษาหมอที่คลินิกจะดีที่สุด
ข้อจำกัดในการเสริมคาง
- สำหรับคนไข้ที่มีคางลักษณะสั้นมากหรือถอยไปด้านหลัง ไม่ควรที่จะเสริมด้วยซิลิโคน เพราะจำเป็นที่จะต้องใช้ซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่มาก ควรใช้วิธีการศัลยกรรมเลื่อนกระดูกคางแทน โดยเฉพาะคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องการสบฟัน
- สำหรับคนไข้ ที่มีคางที่บิดเบี้ยวไม่เท่ากันจากโครงกระดูกคาง เมื่อทำการเสริมด้วยซิลิโคนอาจจะทำให้เกิดการบิดเบี้ยวได้ง่าย ในกรณีนี้แพทย์จะต้องวินิจฉัยโรคที่เป็นและแก้ไขหาสาเหตุก่อน
- สำหรับคนไข้ที่คางเคยฉีดซิลิโคนเหลวหรือสารอื่นๆ มาก่อน ลักษณะรูปทรงของคางนั้นจะควบคุมได้ค่อนข้างยาก อันเนื่องมากจากซิลิโคนเหลวที่แทรกที่ผิวหรือสารที่ตกค้างอยู่ภายในเนื้อ
- สำหรับใครที่สนใจเสริมคางเพื่อปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น อย่าลืมที่ค้นหาข้อมูลจากหลายๆ แหล่งเพื่อศึกษาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของการผ่าตัดเสริมคาง และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกและขอรับการปรึกษาจากศัลยแพทย์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีความชำนาญ