ซิลิโคนเหลว สิ่งแปลกปลอมที่อันตรายเป็นอย่างมากในการทำศัลยกรรม หลายๆ คนอาจไม่เคยได้ทราบเกี่ยวกับวัสดุชนิดนี้มาก่อนและคงสงสัยว่าทำไมจึงเป็นวัสดุที่อันตรายในเมื่อเป็นซิลิโคนเหมือนกัน แต่ความจริงแล้ว ไม่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากซิลิโคนเหลวถือเป็นซิลิโคนปลอม ที่มีคุณภาพและความปลอดภัยไม่เท่ากับซิลิโคน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมซิลิโคนปลอมเช่นนี้จึงเป็นอันตรายต่อร่างกายของคนไข้ที่ทำการนำเจ้าวัสดุตัวนี้เข้าสู่ร่างกาย อย่างไรก็ดี ซิลิโคนตัวนี้สามารถฉีดได้หลายๆ ส่วนตามบริเวณร่างกาย โดยเฉพาะส่วน หน้าอก ที่บรรดาหญิงสาวมักไปฉีดกัน ในบทความนี้เราจึงขอนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวกับซิลิโคนเหลว รวมถึงแนว ทางแก้ไขเอานำเอาซิลิโคนออก ว่าขั้นตอนการรักษามีอะไรบ้าง เพื่อให้ผู้อ่านหรือคนไข้ได้ทราบถึงภัยจากซิลิโคนเช่นนี้มากขึ้น
ซิลิโคนเหลว คืออะไร ?
ซิลิโคนเหลว คือ สารโพลิเมอร์ชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นของเหลว ซึ่งมีคุณสมบัติไม่สลายตัว ทนทานอยู่ได้นาน และในทางการแพทย์ ซิลิโคนเหลวถือเป็นสารต้องห้ามในการใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มหรือเพื่อความสวยงาม
ถึงแม้ว่าซิลิโคนเหลวจะมีอันตราย แต่ด้วยราคาที่ถูก และเห็นผลลัพธ์ไว เหล่าหมอกระเป๋า (ผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นหมอ) จึงมักเลือกใช้ซิลิโคนเหลวในการฉีดให้แก่คนไข้เพื่อเติมเต็มผิวพรรณบริเวณต่างๆ เช่น บริเวณใบหน้า หน้าอก ก้น อวัยวะเพศ
ซิลิโคนเหลว น่ากลัวไหม? อันตรายอย่างไร?
ซิลิโคนเหลวถือเป็นสิ่งที่อันตรายมาก แม้ในช่วงแรกที่ฉีดอาจยังไม่รู้สึกถึงอันตรายใดๆ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป 3-10 ปี ซิลิโคนเหลวจะค่อยๆ ไหลมารวมกันและจับตัวเป็นก้อนแข็งๆ ทำให้ผิวที่เคยยืดหยุ่นได้ ห้อยย้อย บางรายอาจเกิดอาการอักเสบบวมแดง ซึ่งหากต้องการรักษาและแก้ไขก็ทำได้ยาก
จุดต่างๆ ตามร่างกายที่มักถูกฉีดซิลิโคนเหลว
จากที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าเจ้าซิลิโคนตัวนี้มักถูกฉีดเข้าจุดต่างๆ ของร่างกายด้วยกัน ซึ่งก็จะมีผลเสียที่แตกต่างกันออกไป ประกอบด้วย
หน้าอก
หน้าอกมักเกิดเป็นก้อนแข็งและตะปุ่มตะป่ำ ทำให้คล้ำดูไม่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้แล้วการคลำได้ก้อนซิลิโคนที่เต้านม ทำให้การตรวจมะเร็งเต้านมทำได้ยาก บางครั้งถ้าเกิดเป็นมะเร็งก็จะไม่รู้ตัวในระยะแรก
หน้าผาก
เป็นบริเวณที่ฉีดให้หน้าผากโหนกนูนปัญหาที่เกิดคือซิลิโคนเหลวมักจะไหลมาที่บริเวณตาบน
จมูก
หลังจากฉีดปริมาณ 1 ปี จะไหลออกมาด้านข้างของจมูก ทำให้จมูกดูบวมใหญ่ แต่จะไม่มีสันจมูกตามธรรมชาติ
แก้ม
โดยทั่วไปจะฉีดบริเวณโหนกแก้ม แต่หลังจากฉีด เวลาผ่านไปจะไหลลงมาที่กระพุ้งแก้มทำให้ดูเหมือนคนมีอายุมาก เนื่องจากมีการห้อยย้อยของกระพุ้งแก้ม เหมือนกับแก้มของผู้สูงอายุ
คาง
คางมักมีปัญหาเรื่องการไหลย้อย ทำให้คางยาวขึ้นเกินไปและการไหลลงไปที่จุดต่ำสุดของคาง ผิวหนังบริเวณที่ต่ำสุดจะแดงและแข็งทำให้ดูไม่สวยงาม
อวัยวะเพศ
ซิลิโคนเหลวมีการนำมาฉีดทำอวัยวะเพศชายและหญิง ทำให้มีอวัยวะเพศแข็งแต่ช้ำ เมื่อมีการเสียดสีก็จะเกิดเป็นแผลได้ง่าย
สะโพก
ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ซิลิโคนจะมีการไหลจากสะโพกมาที่ต้นขา โดยทั่วไปคนไข้มักมีการฉีดซิลิโคนเหลวจำนวนมาก ทำให้มักเป็นไตแข็งและอักเสบได้บ่อย
อาการและความเสี่ยง
การฉีดสารแปลกปลอมดังกล่าวเข้าไปในร่างกาย โดยปกติร่างกายก็จะพยายามกำจัดสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ออก โดยหลากหลายวิธี เช่นการหลั่งเอนไซม์เพื่อพยายามกำจัดสารเหล่านี้ แต่เนื่องจากสารซิลิโคนเหลวหรือสารอื่นๆที่ไม่สลายตัว เช่น สารพาราฟิน, น้ำมันมะกอก และสารสังเคราะห์ (สารไบโอ) ไม่สามารถถูกย่อยสลายได้ในร่างกายมนุษย์ ดังนั้นร่างกายก็จะมีปฏิกิริยาต่อต้านสารแปลกปลอมเหล่านี้ โดยการผลักดันกำจัดขอบเขตของสารดังกล่าว ทำให้กลายเป็นก้อนๆ ไตๆ แข็งหรือนิ่มก็ขึ้นกับปฏิกิริยาแต่ละคนและปริมาณสารที่ฉีด อาจทำให้มีการอักเสบติดเชื้อ ทำลายเนื้อเยื่อและผิวหนังบางส่วนให้เสียหายได้
ผลเสียที่เกิดขึ้นจากการฉีดซิลิโคนเหลว
- ซิลิโคนเหลวเมื่อฉีดแล้วจะอยู่ถาวร ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
- เมื่อเวลาผ่านไปซิลิโคนเหลว จะทำปฏิกิริยาต่อเซลล์ผิวในร่างกาย ทำให้ผิวเริ่มเป็นก้อนแข็ง ห้อยย้อย แข็งตึง ผิดรูป ดูขรุขระไม่เรียบเนียนและเป็นคลื่น
- สามารถไหลย้อน กระจายไปตามจุดอื่นๆ ได้
- สามารถไหลย้อน กระจายไปยังจุดต่างๆ ได้
- มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการอักเสบ บวมแดงและติดเชื้อ
- หากต้องการแก้ไขและเอาออก ก็สามารถทำได้ยาก
การแก้ไขสารซิลิโคนเหลวบริเวณหน้าอกมีหลากหลายวิธี
1. การให้ยาประคับประคองอาการอย่างเดียว 2. การผ่าตัดเลาะสารแปลกปลอมออกเฉพาะที่หรือเลาะออกทั้งบริเวณเต้านม 3. การผ่าตัดเลาะสารแปลกปลอมออก พร้อมเสริมถุงเต้านมเทียมในคราวเดียวกัน 4. หากเป็นอันตรายรายแรงมาก อาจต้องพิจารณาตัดเต้านมทิ้ง
ท้ายที่สุด การระมัดระวังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนไข้ เนื่องจากซิลิโคนตัวนี้มักมาจาก หมอกระเป๋า หรือ หมอเถื่อน ที่จะโน้มน้าวคนไข้ด้วยค่าบริการที่ถูกกว่าคลินิคทั่วไปที่มีมาตรฐาน ดังนั้น คนไข้ไม่ควรเห็นแก่ราคาที่ถูกกว่า เพราะจะนำมาซึ่งอันตรายและผลเสียต่อตนเองเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่เพียงส่งผลต่ออวัยวะที่ฉีดเข้าโดยตรงเท่านั้น หากแต่มันอาจส่งผลต่อสุขภาพด้านอื่นๆ ด้วย ดังนั้น หากอยากเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองอย่างปลอดภัย ก็ให้เข้าพบแพทย์ที่คลินิคที่มีมาตราฐานและได้รับการรับรองจากสถาบันต่างๆ ที่เชื่อถือได้ เพราะอย่างน้อยก็สามารถมั่นใจได้ว่าคนไข้จะได้รับบริการจากทีมแพทย์ที่ชำนาญ และวัสดุที่ได้มาตรฐานจริงๆ นั่นเองครับ
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
วิธีลดรอยแผลหลังทำหน้าอก ให้ผิวเนียนสวยธรรมชาติ