ทำคาง แล้วเป็นหนอง เป็นผลข้างเคียงที่สามารถพบเจอได้หลังจากการผ่าตัดศัลยกรรมคาง โดยมักเกิดขึ้นบริเวณรอยแผลผ่าตัด การเกิดหนองที่แผลเช่นนี้เป็นผลมาจากการอักเสบหรือการติดเชื้อ ซึ่งถือเป็นภาวะที่ค่อนข้างรุนแรง เนื้อจากหากไม่ทำการรักษา ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการเจ็บอื่นๆ ด้วย ซึ่งนั่นเป็นเพียงผลเสียเบื้องต้นเท่านั้น เพราะนอกจากอาการอักเสบจะทำให้คนไข้มีอาการเจ็บแผล แผลหายช้า หากไม่รีบทำการรักษาก็อาจทำให้เสียชีวิตได้เลยทีเดียว
ทำคาง แล้วเป็นหนอง ภาวะเสี่ยงที่ไม่ควรละเลย
หากมีเหตุให้คนไข้ได้รับการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นด้วยสาเหตุของการรักษาโรค หรือเพื่อความสวยงามอย่างศัลยกรรม หลังผ่าตัดเรียบร้อยแล้วก็ตาม แน่นอนว่าหลายคนก็อยากจะให้แผลหายเร็วและไม่มีแผลเป็นตามมาทั้งสิ้น รวมถึงภาวะแผลติดเชื้อ หรือ อักเสบ ต่างๆ ที่ทำให้เกิดความเสี่ยงกับแผลเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะทำให้แผลหายช้า เกิดเป็นหนอง หรือแผลเหวอะ หากอักเสบอย่างรุนแรง ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลยอย่างยิ่งหากคนไข้ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับตนเอง
ปัจจัยหรือพฤติกรรมที่ทำให้เกิดแผลติดเชื้อ
- อาจเกิดจากเชื้อที่อยู่บริเวณผิวหนัง มือ ของตัวผู้ป่วย แล้วเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผล
- ผู้ป่วยเลือกทานอาหารไม่ดีที่มีผลต่อการสมานแผลและทำให้เกิดการติดเชื้อ
- ผู้ป่วยยังคง “สูบบุหรี่” ในขณะที่บาดแผลยังไม่หาย
- ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวที่มีผลให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ เช่น โรคเบาหวาน
สัญญาณเตือนว่าอาจเกิด “ภาวะแผลติดเชื้อ”
- บาดแผลมีรอยแดง เจ็บ หรือบวม และอาการเจ็บบริเวณบาดแผลเพิ่มระดับมากขึ้นเรื่อยๆ
- บาดแผลมีกลิ่นเหม็น
- บาดแผลมีเลือดหรือหนอง
ภาวะแทรกซ้อนจากแผลติดเชื้อ…น่ากลัวกว่าที่คิด
- ภาวะแผลติดเชื้อรุนแรงจนกลายเป็น “บาดทะยัก”
- การติดเชื้อลุกลามจนเกิดโรคแบคทีเรียกินเนื้อ หรือ “โรคเนื้อเน่า” (Necrotizing Fasciitis) ส่งผลให้ผิวหนังเกิดความเสียหาย หรือเนื้อเยื่อตาย
- การติดเชื้อแพร่กระจายสู่เนื้อเยื่อที่อยู่ลึกลงไปใต้ผิวหนัง อาจทำให้เกิดเซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ (Cellulitis)
- การติดเชื้อลุกลามกระจายเข้าสู่กระแสเลือด ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
แนวทางการรักษาแผลติดเชื้อ ทำอย่างไร ต้องแก้คางใหม่หรือเปล่า?
แพทย์จะพันผ้าพันแผลไว้ให้โดยประมาณ 2 ถึง 3 วัน ระหว่างนี้คนไข้จะต้องรับประทานอาหารที่อ่อนหรือเป็นน้ำเพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนของบาดแผล คนไข้อาจจะประสบปัญหาบาดแผลบวมหรือปวด อาการเหล่านี้สามารถบรรเทาลงได้โดยการสั่งยาของแพทย์
แนวทางการเฝ้าระวังเรื่องแผลติดเชื้อ
ไม่ว่าการผ่าตัดครั้งนั้นจะใช้ไหมละลายหรือไหมแบบไม่ละลาย นั่นก็ไม่มีผลต่อการนูนหรือการเกิดแผลเป็น แต่ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของไหมที่ใช้ในการดึงรั้งแผล และปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องมากกว่าเช่นหากดูแลรักษาแผลไม่ดีจนเกิดติดเชื้อ ก็อาจจะทำให้แผลมีรอยนูนเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นควรระวังให้มาก ไม่แกะพลาสเตอร์ออกเอง หรือหากมีอาการคันแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอจะดีที่สุด เพราะคุณหมออาจจะจ่ายยาที่ช่วยลดอาการคันที่เกิดจากการแพ้พลาสเตอร์กันน้ำให้ และควรรักษาความสะอาดของบริเวณแผลผ่าตัดให้ดี เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อได้
หรือสามารถทำตามวิธีต่างๆ ดังนี้
อาหารช่วยลดบวม
ไม่ใช่แค่เรื่องการดูแลตัวเองเท่านั้น เรื่องอาหารก็สำคัญไม่แพ้กันครับ หลังการศัลยกรรม คนไข้อาจจะต้องลองหันมาทานอาหารจำพวก ฟักทอง สาหร่าย ใบบัวบก หรือถั่วดำดูสิ เพราะอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย ทั้งวิตามินเอ ช่วยลดการติดเชื้อหลังผ่าตัด ช่วยขจัดเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม ช่วยลดอาการบวม แร่ธาตุ ใยอาหาร และธาตุเหล็ก ช่วยปรับอุณหภูมิร่างกายให้อบอุ่น ลดอาการบวมช้ำ แถมยังช่วยบำรุงโลหิต ขจัดสารพิษในร่างกาย และลดการติดเชื้อได้อีกด้วยครับ
ประคบอุ่นเมื่อครบ 1 สัปดาห์
หลังจากครบ 1 สัปดาห์ให้เปลี่ยนมาประคบอุ่นแทน เพราะความร้อนจากการประคบอุ่นจะช่วยให้เส้นเลือดขยายตัวรับการดูดซึมกลับของสารน้ำต่างๆ ที่ค้างอยู่ในเนื้อเยื่อที่บวมได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ความร้อนยังช่วยให้ลิ่มเลือดเก่าละลายเร็วขึ้น แถมยังส่งผลให้พังผืดภายในที่แข็งเป็นไตนุ่มตัวเร็วขึ้นด้วย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องระวังไม่ให้ร้อนเกินไปเพราะอาจลวกผิวหนังได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องหมั่นสังเกตด้วยว่า หากประคบร้อนลงไปแล้วอาการบวมกลับเป็นมากขึ้นก็ควรหยุดทันที
ประคบเย็น
ประคบเย็นทันทีหลังผ่าตัดเสร็จและประคบต่อเนื่องไป 48 ชั่วโมง โดยใช้เจลแพ็กหรือผ้าขนหนูที่เปียกแช่ช่องแข็ง หรือผ้าห่อน้ำแข็งสลับกันประคบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการประคบเย็นจะช่วยควบคุมการเสียเลือด ลดความเจ็บปวด และการบวมของแผล และความเย็นที่ถูกประคบลงบนผิวจะทำให้แผลมีการหดตัวของหลอดเลือด นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มความหนืดของเลือด ทำให้เลือดแข็งตัวและหยุดไหล ช่วยลดอาการบวมได้อีกด้วย
ยกหัวให้สูง
ในช่วง 3-5 วันแรก หากทำศัลยกรรมจมูก ควรยกหัวให้อยู่สูงกว่าระดับหัวใจ เพื่อยับยั้งการรั่วไหลของสารน้ำออกจากเส้นเลือดให้เร็วที่สุด ซึ่งจะลดอาการบวมได้ โดยในช่วงการนอนหลับให้นอนหมอนสูงหรือนอนให้หัวอยู่สูงกว่าปกติ
อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดอาการผิดปกติอย่ามัวชะล่าใจ เพราะภาวะแผลติดเชื้ออันตรายร้ายแรงถึงชีวิต ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ที่สำคัญ ควรป้องกันไม่ให้เกิดแผลติดเชื้อ ด้วยการใส่ใจในเรื่องความสะอาดของบาดแผลและอุปกรณ์ในการทำความสะอาดแผล ตลอดจนการเลือกทานอาหารที่ช่วยในเรื่องการสมานแผล และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
Q&A – 7 คำถามยอดฮิตที่คนอยาก”ทำคาง”ต้องรู้