การเติมไขมัน คือการเติมเต็มส่วนที่ขาดบนใบหน้า เรียกง่ายๆ ให้เข้าใจก็คือการย้ายเซลล์ไขมัน จากส่วนที่เราไม่ต้องการแล้ว ไปเติมเต็มในส่วนที่ขาดแทนการฉีดฟิลเลอร์ครับ ซึ่งการเติมไขมันไม่ใช้เติมเพียงแค่ความสวยเท่านั้น แต่มันยังสามารถช่วยรักษาฝ้า ทำให้ฝ้าจางลง เติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้นได้อีกด้วยครับ
เติมไขมันหน้าดีอย่างไร..?
1.สามารถเติมได้ในปริมาณที่เราต้องการ
2.เป็นเซลล์ของตัวเราเอง จึงทำให้ไม่มีการต่อต้าน
3.สามารถเติมได้ทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก / ขมับ / ร่องแก้ม / แก้มส้ม ฯลฯ
4.ช่วยรักษาฝ้า ทำให้ฝ้าจางลง เติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น
5.ได้ความหน้าใส ผิววาว ฉ่ำ
6.ดูดไขมันออกจากส่วนที่เราไม่ต้องการได้ เช่น ต้นขา หน้าท้อง ฯลฯ

ข้อเสียของการเติมไขมัน..?
คือ ต้องฉีดในปริมาณที่มากกว่าปกติ20% เพราะเซลล์ไขมันบางตัวจะมีโอกาสตาย ในเรื่องของการคงสภาพ ก็จะขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายเราเอง ซึ่งสามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต แต่ก็ขึ้นอยู่กับอายุของแต่ละคน เพราะเมื่อไรที่เราอายุมากขึ้นสภาพผิวก็จะเหี่ยวลง ส่งผลให้ไขมันใต้ชั้นผิวลดลงไปด้วย อาจต้องเติมซ้ำ

เติมไขมันอยู่ได้นานแค่ไหน..?
การปลูกถ่ายไขมันบริเวณใบหน้าทั่วโลก โอกาสที่เซลล์ของไขมันจะอยู่รอดหลังการปลูกถ่าย พบได้ตั้งแต่ 30 – 80 % ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง แต่ด้วยเทคนิคพิเศษของผม หมอกันน์ รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ พบว่าเทคนิคของเรานั้นอัตราการปลูกถ่ายติดอยู่ที่ 70 – 80% และอยู่ได้คงที่แม้ผ่านไป เป็นปีแล้วก็ตามโดยที่ไม่ต้องกลับมาเติมซ้ำ เซลล์ที่ปลูกติดจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงไปตามน้ำหนักของตัวคนไข้เองด้วยครับ
ฟิลเลอร์ Vs ไขมัน ฉีดแล้วแตกต่างกันอย่างไร … ?
1.ฟิลเลอร์ : เป็นสารสังเคราะห์ (hyaluronic acid) ที่เติมได้ทันที ไม่บวม ไม่ช้ำ แต่ไม่สามารถทำให้หน้าดูสดใสได้ ผิวหนังด้านบนอาจจะเป็นคลื่นๆ และค่าใช้จ่ายสูง ในกรณีที่เติมหลายcc.
2.ไขมัน : เป็นเซลล์ไขมันจากร่างกายเรา เมื่อฉีดแล้วจะทำให้ผิวสวย หน้าดูเนียน ฉ่ำวาว มีวอลุ่มมากกว่าการเติมฟิลเลอร์ ผิวด้านบนใบหน้าจะดูเรียบเนียนมากกว่านั้นเอง
การเตรียมตัวก่อนเติมไขมันหน้า
1.งดวิตามินต่างๆ
2.บริเวณที่จะดูดไขมัน ห้าม! มีบาดแผลเพราะจะติดเชื้อได้ง่าย
3.งดน้ำ และอาหารก่อนผ่าตัด 5-6 ช.ม.
การดูแลตัวเองหลังทำ
1.ล้างหน้าให้สะอาด หลีกเลี่ยงบริเวณรูเข็มที่ฉีดไขมัน
2.อย่าล้างหน้าแรง
3.หลีกเลี่ยงการอบซาวน์หน้าในช่วง 1 – 2 สัปดาห์
4.หลังการดูดไขมัน ภายใน24ชั่วโมง อาจมีการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หลังพักฟื้น1วัน
สามารถกับไปดำเนินกิจกรรมได้ตามปกติ
5.งดทานของแสลง แอลกอฮอล์ ไก่ ไข่ นม อาหารทะเล ของหมักดอง เวลา 2-3 สัปดาห์
6.งดอาบน้ำ ล้างหน้า และแต่งหน้าเป็นเวลา 2 วัน หลีกเลี่ยงการสัมผัส
การกระทบกระเทือน เพราะมีผลต่อสเตมเซลที่ปลูกถ่ายบนใบหน้า
*ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงได้แล้วแต่บุคคลเป็นปีแล้วก็ตามโดยที่ไม่ต้องกลับมาเติมซ้ำ เซลล์ที่ปลูกติดจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงไปตามน้ำหนักของตัวคนไข้เองด้วยครับ
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
บทความ : ฉีดไขมันหน้า ฉีดไขมันหน้าเด็ก กี่วันหายบวม?
รีวิว : เติมไขมันหน้ากับหมอกัน หน้าเด็กลงเป็น 10 ปี
บทความ : ไขมันสลาย หุ่นสวยด้วย Cool Slimming