ก่อนที่เราจะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ หมอขอบอกก่อนว่าต้องศึกษารายละเอียดของการฉีดฟิลเลอร์ ก่อนที่จะไปฉีดฟิลเลอร์เพราะฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยจะต้องเป็น สารกลุ่มไฮยารูลอนิกแอซิด (HA) ที่สลายได้เองตามธรรมชาติ ใน 6เดือน – 2ปี และถ้าหากใครที่ไม่ชอบฟิลเลอร์ที่ฉีดมา ก็มียาสลายฟิลเลอร์อีกด้วยครับ แต่ถึงยังไงใครที่กังวลใจ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าฟิลเลอร์ที่เราฉีดเข้าไปเป็นฟิลเลอร์แท้หรือฟิลเลอร์ปลอม ก็มาดูบทความนี้เลยครับหมอได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ไว้ให้กับคนไข้ทุกคนแล้วครับ

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ต้องรู้อะไรบ้าง

1. ฉีดกับแพทย์ผู้ชำนาญ การเลือกแพทย์ผู้ทำหัตถการก็ถือว่าสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะบางจุดหากฉีดผิดวิธีอาจเกิดผลเสียได้ ซึ่งคุณหมอกันเป็นแพทย์ที่ชำนาญการ และมีประสบการณ์ในด้านการปรับรูปหน้าให้สวยงามด้วยฟิลเลอร์ และการฉีดไขมันเติมเต็ม โดยศึกษาและทำหัตถการด้านฉีดฟิลเลอร์มาตลอด 15 ปี ซึ่งคนไข้ส่วนมากพึงพอใจและมาบริการเป็นอันดับหนึ่งด้านสกินแคร์

2. ฉีดฟิลเลอร์แท้เท่านั้น ต้องศึกษาให้ดีก่อนฉีดฟิลเลอร์ว่า คลินิกที่เราเลือกนั้นใช้ฟิลเลอร์ของแท้หรือไม่ ซึ่งทางคลินิกของเราคุณหมอจะเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้มีคุณภาพ จากอเมริกาและยุโรปที่ได้รับการรับรอง มีเอกสารกำกับยาที่ถูกต้อง สามารถตรวจสอบเช็คเลข Lot และความปลอดภัยได้ เนื่องจากคุณหมอตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะฟิลเลอร์แท้จะสามารถสลายได้ทั้งหมด 100% และไม่มีผลข้างเคียงเกิดขึ้นกับร่างกายของคนไข้ในภายหลัง

3. ฟิลเลอร์ช่วยเรื่องอะไร การฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นหัตถการที่คนนิยมเป็นอย่างมาก เพื่อช่วยแก้ไขปรับรูปหน้าที่มีริ้วรอย ร่องลึก เติมเต็มช่องว่างให้กับเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดความยืดหยุ่น เพิ่มความเต่งตึงเนียนเรียบ ริ้วรอยร่องลึกต่างๆ จึงดูตื้นขึ้นและจางลง ซึ่งเหมาะกับทุกวัยที่มีริ้วรอย ร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา มุมปาก ขมับ และคาง อีกทั้งช่วยเสริมในเรื่องโหงวเฮ้งอีกด้วย

4. ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล ฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นหัตถการที่ใช้เวลาค่อนข้างไว ให้ผลลัพธ์เร็ว ไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีดเสร็จจะให้ผลลัพธ์ทันที และจะเห็นผลลัพธ์ 100 % หลังฉีด 4-5 วัน

5. ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติ และอายุการสลายแตกต่างกันออกไป โดยประมาณจะอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับ ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม คลิกเลย!! ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) อันตรายไหมนะ?

ฟิลเลอร์ คือ?

ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ HA ที่เราเอามาฉีดปรับรูปหน้า แก้ไขปัญหาร่องลึก ให้ดูตื้นขึ้น ช่วยชะลอวัยให้ดูเด็กลง โดยทั่วไปฟิลเลอร์แบ่งออกได้หลากหลายกลุ่ม และระยะเวลาการสลายตัวของฟิลเลอร์แต่ละกลุ่มจะไม่เท่ากันครับ

เมื่อก่อนช่วงแรกของการมีฟิลเลอร์จะไม่สามารถสลายไปเองได้ครับ เพราะเป็นกลุ่มของซิลิโคน และได้มีอันตรายต่อผู้ใช้ ทำให้ในปัจจุบันมีการยกเลิกฟิลเลอร์ตัวนี้ไปแล้ว

ต่อมาในปัจจุบันได้มีพัฒนาสารตัวใหม่นั่นคือ Hyaluronic Acid หรือ HA ที่เลียนแบบจากสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถสลายเองได้ในช่วง 6 – 24 เดือนขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อนะครับ ทำให้ไม่เกิดอันตราย และมาปลอดภัยเมื่อก่อนครับ ทีสำคัญในปัจจุบัน ฟิลเลอร์ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ทั่วโลกว่าได้รับมาตรฐานและปลอดภัย

ฟิลเลอร์เติมจุดไหนได้บ้าง ?

สารไฮยารูลอนิก แอซิด (HA) เป็นสารประกอบคอลลาเจน พร้อมปรับรูปหน้า ได้หลายตำแหน่ง การฉีดฟิลเลอร์เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย  คนที่มีริ้วรอยหรือร่องลึก บริเวณใบหน้า เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก คาง และช่วยปรับแต่งรูปหน้าให้ดีขึ้น

ตำแหน่งในการฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์สลายหมดหรือไม่สลาย ?

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ HA ที่เราเอามาฉีดปรับรูปหน้า แก้ไขปัญหาร่องลึก ให้ดูตื้นขึ้น สามารถย่อยสลายไปได้เองตามธรรมชาติในช่วง 6เดือน -12 เดือน  เป็นสารที่มีโครงสร้างแบบเดียวกับคอลลาเจนใต้ผิว มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวเต่งตึงมีน้ำมีนวล ริ้วรอยร่องลึกที่ดูตื้นขึ้น ทั้งยังเป็นการเติมคอลลาเจนให้ผิวกลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้ง

ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม?

ฟิลเลอร์เป็นการปรับแก้ไขรูปหน้า ที่เจ็บน้อยที่สุดแถมไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ผลข้างเคียงที่เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์มักจะเป็นรอยช้ำรอยเขียว แต่ผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายจะเกิดขึ้นได้ ถ้าเราฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ใช่ของแท้ หรือฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์และความชำนาญมากพอ

เพราะหน้าของเรามีเส้นเลือดอยู่เป็นจำนวนมากมาก ถ้าฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดไปอุดตันตรงเส้นเลือดก็อาจจะทำให้ตาบอดได้ หรือฉีดเข้าไปผิดชั้นผิว ฟิลเลอร์ก็จะไหลย้วย จนไม่ได้รูปทรงทำให้หน้าของเราผิดรูปไปได้ครับ

ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร?

ปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลายรุ่น หลายยี่ห้อ ราคาก็แตกต่างกันไป ยี่ห้อที่ผ่านการรับรองในประเทศไทยและเป็นที่นิยม ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน และที่สำคัญอย่าลืมปรึกษาหมอและเลือกให้เหมาะกับปัญหาเราครับ

1. ฟิลเลอร์ Juvederm

ถือว่าเป็นแบรนด์ที่การันตีคุณภาพ ผลิตจากประเทศฝรั่งเศส มีเนื้ออ่อน ละเอียด ไม่แข็ง ฉีดแล้วจึงได้วอลลุ่มสวย ไม่เป็นก้อน ไม่เป็นคลื่น สามารถเติมบริเวณใต้ตา ปาก โหนกแก้ม ร่องแก้ม ขมับ และหน้าผาก ได้ดีทีเดียว เมือฉีดไปแล้วจะจะอยู่ประมาณ 12-24 เดือน

2. ฟิลเลอร์ Restylane

เป็นฟิลเลอร์อีกตัวที่คนนิยมใช้เยอะมากไม่แพ้ Juvederm ผ่านการรับรองจาก อย. ในประเทศไทย มีเนื้อค่อนข้างอ่อน แต่ฉีดได้สวย เรียบเนียนไปกับผิว เติมน้ำให้ผิวชุ่มฉ่ำขึ้น ไม่เป็นก้อน สามารถเติมบริเวณได้หลายจุด เมื่อฉีดไปแล้วอยู่ประมาณ 12-18 เดือน

3. ฟิลเลอร์ Perfectha

ผ่านการรับรองจาก อย. ในประเทศไทยเช่นกัน ทางคลินิกชอบใช้ตัวนี้ เพราะเนื้อค่อนข้างแข็งสามารถปั้นได้ทรงสวย และฉีดได้หลายจุด ฉีดได้ดีในตำแหน่งคาง ขมับ โหนกแก้ม และหน้าผาก ฉีดได้ค่อนข้างเนียน อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน

4. ฟิลเลอร์ Neuramis

ผลิตจากประเทศเกาหลี เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เนื่องจากสามารถฉีดได้หลายตำแหน่งบนใบหน้า แต่ค่อนข้างจะสลายไว หลายคลินิกชอบใช้ตัวนี้ เพราะมีราคาที่ประหยัด อยู่นานประมาณ 9-12 เดือน

บทความ : Fillerยี่ห้อไหนดี? ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน ดีที่สุด

บทความ : รีวิวเปรียบเทียบฟิลเลอร์ ยี่ห้อ Restylane VS Juvederm

วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ ก่อนฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการเติมเต็ม ควบคุมโดยแพทย์โดยตรง การเลือกใช้เฉพาะฟิลเลอร์ที่ได้รับมาตรฐาน และผ่าน อย. และถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของคนไข้ครับ สำหรับวิธีเช็คเบื้องต้นจะมีดังนี้

1. กล่องฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์แท้จะต้องมีฉลากภาษาไทยติดอยู่บนกล่อง พร้อมราคา และข้อมูลเลข Lot เลขที่อ้างอิง, วันผลิต, หมดอายุ
2. ฉีดสลายได้   ฟิลเลอร์แท้จะสามารถฉีดสลายได้ด้วยตัวยาไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) สลายได้ 100 % โดยค่อยๆ ยุบลงจนไม่เหลือฟิลเลอร์ตกค้าง และไม่มีผลข้างเคียง บทความ : วิธีดูฟิลเลอร์แท้ & ฟิลเลอร์ปลอม มีวิธีดูยังไง?

การปฏิบัติตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

1.คนไข้ควรศึกษาข้อมูล เพื่อเลือกคลินิก เลือกแพทย์ที่ทำหัตถการ และเทคนิคที่แพทย์ใช้ เพื่อมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และไม่มีผลเสียตามมาทีหลัง

2.ประมาณ 1 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยงอาหารเครื่องดื่มประเภท กระเทียม ขิง ใบแปะก๊วย และควรงดยาแอสไพริน, Diclofenac และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มวิตามินอี , น้ำมันตับปลา เนื่องจากเป็นกลุ่มที่อาจส่งผลให้เลือดแข็งตัวช้า ช้ำง่ายและบวมนานกว่าปกติ ทั้งนี้สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว และต้องทานยาในกลุ่มนี้เป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนครับ

การดูแลตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์

1. งดทาเครื่องสำอาง ครีมบำรุง รวมทั้งงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนประมาณ 24 ชั่วโมง
2. ช่วงแรก ๆ หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนต่าง ๆ เช่น เตาปิ้งย่าง ไดร์เป่าผม น้ำอุ่น และอบซาวน่า
3. งดการกด นวด  เกา บริเวณที่ฉีดFiller ประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากอาจทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูปได้
4. ควรดื่มน้ำปริมาณมากๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำ  ฟู สวย และเติมเต็มมากขึ้น
5. หากมีอาการบวม หรือช้ำ ควรประคบเย็นได้ หรือหากมีอาการปวด สามารถทานยาแก้ปวดได้ครับ

รีวิว

YKJ Medical Center ยืน 1 ด้านศัลยกรรม เสริมความงาม

โดยหมอกัน อาจารย์แพทย์ด้านการทำจมูกเทคนิคโอเพ่น และการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ

คลิกจองคิวหรือปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บทความ : ผู้ชายฉีดฟิลเลอร์ได้มั้ย? .. ผู้ชายก็ฉีดฟิลเลอร์ได้

บทความ : เคล็ดลับ ยืดอายุฟิลเลอร์ วิธีดูแลฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน

บทความ : เข็มฉีดฟิลเลอร์ เข็มทู่หรือเข็มแหลมแบบไหนฉีดฟิลเลอร์ได้ดีกว่า