ขึ้นชื่อว่าผู้หญิงก็อยากให้ตัวเองดูสวยอยู่ตลอดเวลา  ไม่เว้นแม้แต่คุณแม่ป้ายแดง(คนท้อง)ที่ยังไม่คลอดก็อยากทำสวยในทันที  แต่เดี๋ยวก่อนนะคุณแม่ ๆ ทั้งหลาย เพราะในระหว่างที่เราตั้งครรภ์ มักจะมีข้อห้ามต่าง ๆ มากมาย ในการทำสวย เพราะถ้าเกิดอันตรายขึ้นกับลูกในครรภ์ มันคงเป็นเรื่องใหญ่เลยละ เพราะงั้นหมออยากให้คุณแม่ ๆ ตัดสินใจในการทำสวยขณะตั้งท้องดี ๆ ว่ามันมีผลเสียหรือไม่ วันนี้หมอจึงมีคำตอบมาฝากกันครับ

คนท้องทำสวยอะไรได้บ้าง?

ถ้าถามว่าทำสวยได้ไหม ได้นะแต่ก็ต้องมาดูกันก่อนนะว่าทำอะไรได้บ้าง ไม่ได้บ้าง งั้นอย่ารอช้ามาดูกันเลยครับว่ามีอะไรบ้าง

อย่างแรกเลย เลเซอร์ จริง ๆ ต้องบอกอย่างงี้ว่า เลเซอร์ ทำได้เกือบทุกตัว เช่น ฝ้า กระ รอยดำ รอยแดง IPL กำจัดขน สามารถทำได้  แต่ยกเว้นเลเซอร์ที่มี สื่อ  แผ่นเหล็ก หรืออะไรที่ทำให้ตัวเราเป็นวงจรไฟฟ้า  เช่นการนอนทับสื่อ อะไรที่เกี่ยวกับไฟฟ้าแบบนี้ไม่ให้ทำเด็ดขาด เพราะกระแสไฟฟ้าจะกระตุ้นให้เกิดความผิดปกติของการเต้นของหัวใจ  แล้วสำหรับคนท้องฮอร์โมนในร่างกายก็จะเปลี่ยน สีผิวมันจะเข้มขึ้น ถ้าทำก็อาจจะต้องลดพลังงานของเลเซอร์ลง เพราะว่าผิวมันจะ Sensitive ได้ง่ายกว่าปกติ  ส่วนในเรื่องของเลเซอร์ยกกระชับ เช่น Thermage  Hifu  Ulthera ทำได้ไหม? หมอต้องบอกอย่างงี้ว่าอะไรที่มันเจ็บมาก ๆ หมอไม่แนะนำให้ทำนะครับ ยิ่งคนท้องแก่ความเจ็บมันจะไปกระตุ้นการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ และการหดแกร็งของมดลูก ทำให้คุณแม่คลอดลูกได้ครับ  แต่ถึงยังไงถ้าเป็นเรื่องที่รอได้ก็ควรรอหลังคลอดก่อนจะดีกว่าครับ

อย่างที่สอง อะไรที่ต้องเข้าไปอยู่ในร่างกายหรือฉีดเข้าสู่ร่างกาย เช่น ร้อยไหม , Filler , Botox , ฉีดวิตามินผิว , ฉีดผิวขาว ฯลฯ สำหรับคนท้องหมอไม่แนะนำให้ฉีดนะครับ เพราะเราไม่รู้ว่าในแต่ละเทคนิค แต่ละสูตรใช้ยาตัวไหนบ้าง เพราะสิ่งที่ไม่รู้เนี่ยละหน้ากลัวที่สุด เป็นไปได้อดทนรอสักนิดดีกว่าครับ เพื่อความปลอดภัยของเด็กในครรภ์ครับ

อย่างสุดท้าย คือ คนท้องนั้นสามารถทำศัลยกรรมได้มั้ย หมอต้องพูดเลยว่า “พักก่อน”  เพราะการทำศัลยกรรมนั้นต้องอาศัยการฟื้นฟูร่างกายสักพักเพื่อให้กลับมาแข็งแรงก่อน แต่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นั้นร่างกายอ่อนแออยู่แล้ว ฟื้นตัวได้ยาก หรือต้องใช้เวลานานกว่าปกติ รวมทั้งยังต้องคอยดูแลและระวังบาดแผลที่เพิ่งผ่านการทำศัลยกรรมมา ไม่ให้เกิดการอักเสบ บวมอีกด้วยครับ

คนท้องควรคิดให้ดีก่อนทำศัลยกรรม

1.การพักฟื้นหลังทำศัลยกรรม นั้นต้องใช้เวลาในการรักษาตัวเป็นสัปดาห์ในการนอนพักผ่อน บางกรณีก็อาจจะต้องมีการนวดระหว่างพักฟื้น เพราะงั้นคุณแม่ๆทั้งหลายต้องมั่นใจว่าสามารถพักฟื้นและทำตามที่แพทย์แนะนำได้ โดยที่ไม่กระทบต่อการเลี้ยงลูกนะครับ

2.ระวังการกระแทก ในการทำศัลยกรรมบางอย่าง เช่นการทำจมูก จำเป็นจะต้องระมัดระวังไม่ให้จมูกของเราได้รับการกระทบกระเทือน หรือกระแทก เพราะอาจมีปัญหาตามาได้ในภายหลัง

3.ยาที่ต้องรับประทานสำหรับทำศัลยกรรม  ได้แก่ ยาชา และต้องมีการานยาหลังผ่าตัด เช่น ยาแก้ปวด ,ยาฆ่าเชื้อ ถึงแม้ว่ายากลุ่มนี้มีผลต่อลูกผ่านทางน้ำนมน้อยมาก แต่การที่ลูกได้รับยาเหล่านี้ผ่านทางน้ำนมในระยะเวลาต่อเนื่อง โดยที่ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วย ก็อาจส่งผลในอนาคตได้ คือ เกิดการดื้อยา

4.ปั๊มนมไว้ แล้วค่อยไปทำศัลยกรรม จริง ๆ แล้ววิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งแนวคิดสำหรับคุณแม่อยากสวย แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าหลังทำศัลยกรรมแล้วจะเกิดเหตุไม่คาดคิดที่ทำให้ต้องกินยาต่อเนื่องหรือไม่ ในเมื่อเราไม่รู้ว่าจะต้องกินยาไปนานเท่าไร ดังนั้นการสต็อกน้ำนมไว้ก็อาจไม่เพียงพอสำหรับลูกน้อยก็ได้

เข้าใจนะครับว่าสำหรับคุณแม่ ๆ มือใหม่ ถึงจะท้องอยู่แต่ก็อยากให้ตัวเองดูสวยอยู่ตลอดเวลา แต่พอเมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นได้ว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำศัลยกรรมนั้น มีค่อนข้างมาก เพราะอาจส่งผลถึงกับทำให้ทารกพิการ จนกระทั่งเสียชีวิต รวมทั้งความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตของคุณแม่เอง เพราะงั้นหมอจึงแนะนำว่า ควรรอให้การตั้งครรภ์ยุติ หรือจนกระทั่งคลอดบุตร และผ่านพ้นช่วงการให้นมไปก่อนจะดีกว่าครับ

YKJ Medical Center ยืน 1 ด้านศัลยกรรม เสริมความงาม

โดยหมอกัน อาจารย์แพทย์ด้านการทำจมูกเทคนิคโอเพ่น และการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ

คลิกจองคิวหรือปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บทความ : การเตรียมตัวก่อนทำจมูก วิธีเตรียมตัวก่อนผ่าตัดศัลยกรรมจมูก

บทความ : การเสริมจมูก กับ ร้อยไหมจมูกแบบไหนดีกว่ากัน?

บทความ : ซิลิโคนเสริมจมูก วัสดุที่ใช้เสริมจมูก มีอะไรบ้าง?

ดูรีวิวทั้งหมดของ YKJ Medical Center ได้ที่นี่