หลังทำศัลยกรรมไม่ว่าจะเป็นการเสริมจมูก เสริมตาสองชั้น หรือเสริมหน้าอก สิ่งที่คนไข้หลายๆ คนมักจะมีความกังวลอย่างมากคือ รอยแผลเป็นที่อาจเกิดขึ้นได้หลังผ่าตัดทำศัลยกรรม วันนี้หมอกันมีเคล็ดลับการดูแลผิวเพื่อลดแผลเป็นหลังผ่าตัดอย่างถูกวิธี ให้ฟังครับ
วิธีดูแลแผล เพื่อป้องกันและลดแผลเป็น
1.ห้ามโดนน้ำ
ควรระมัดระวังไม่ให้แผลโดนน้ำอย่างน้อย 7 วัน ซึ่งหลังการศัลยกรรมแพทย์จะมีการแปะแผ่นกันน้ำไว้ให้ คนไข้ไม่ควรราดน้ำลงไปโดยตรงและงดการถูสบู่แรงบริเวณนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้แผ่นกันน้ำหลุดก่อนเวลาที่กำหนดครับ
2.ห้ามแกะแผล
การแกะ จับ เกา กดบริเวณแผลบ่อยๆ เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องครับ เพราะทำให้ผลเกิดการอักเสบได้ง่ายและยังเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดแผลเป็นอีกด้วย
3.ห้ามกินของเผ็ด
ในกรณีที่ทำศัลยกรรมจมูก คนไข้ควรงดการทานอาหารรสเผ็ดหรือมีกลิ่นฉุนแรงๆ ที่ทำให้มีน้ำมูก เพราะน้ำมูกนั้นคือสารคัดหลั่งที่อาจจะส่งผลต่ออาการอักเสบของแผล และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่แผล ทางที่ดีควรงดการทานของเผ็ดและมีกลิ่นแรงๆ ไปก่อน ในกรณีที่คนไข้ป่วยเป็นไข้หวัด แนะนำให้ทานยาลดน้ำมูกแทนการสั่งน้่ำมูกออกมาครับ
4.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์-บุหรี่
เนื่องจากในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีสารที่ทำให้ร่างกายร้อน และเลือดสูบฉีดง่ายจนอาจจะทำให้แผลบวมและอักเสบได้ง่ายติ นอกจากนี้การสูบบุหรี่ยังทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ
5.งดการกินของแสลง
ไม่ว่าจะเป็นของหมักดองทุกชนิด ไข่ไม่สุก อาหารทะเล เพราะอาหารเหล่านี้เสี่ยงต่อการปนเปื้อนที่ทำให้เกิดการติดเชื้อที่แผล
วิธีลดรอยแผลเป็น
ในกรณีที่แผลหลังศัลยกรรมเกิดรอยแผลเป็นไปแล้ว หมอกันก็มีวิธีรักษารอยแผลเป็นมาแนะนำครับ
1.ทายาแก้แผลเป็น
การทายารักษารอยแผลเป็นเป็นวิธีที่ง่ายและสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ในตัวยามักจะมีส่วนผสมของวิตามินอี วิตามินเอ วิตามินบี 3 ในบางยี่ห้ออาจมีสเตียรอยด์ สามารถทาได้ทุกวัน แต่ผลลัพธ์อาจจะไม่ได้เป็นผลชัดมากนัก อย่างมากก็อาจจะทำให้แผลจางลงเล็กน้อย จำเป็นต้องใช้ระยะเวลานาน
2.ใช้ซิลิโคนเจล
เป็นแผ่นเจลที่ช่วยให้แผลเป็นมีสีจางลงได้ ลักษณะเจลจะนุ่มๆ และยืดหยุ่นเหมาะสำหรับใช้แปะเพื่อลดรอยแผลรอยนูนและรอยแผลเป็นแดง ระยะเวลาแปะประมาณ 12 ชั่วโมงและจำเป็นต้องใช้ติดต่อกันประมาณ 4-6 เดือนถึงจะเริ่มเห็นผล
3.การฉีดยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Intra lesional corticosteroid)
สำหรับผู้ที่ต้องการรักษารอยแผลเป็นให้เร้วยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาหมอเพื่อฉีดยารักษารอยแผลเป็นได้ โดยหมอจะทำการฉีดยากลุ่มสเตียรอยด์เข้าไปในแผลเป็น ครั้งละประมาณ 10-120 มิลลิกรัมต่อครั้งและต้องมาฉีดซ้ำทุกเดือน
4.ฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์คือสารที่มีส่วนประกอบของ HA ที่ช่วยเติมเต็มส่วนใบหน้าที่ขาดไปได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยปรับเปลี่ยนโครงสร้างใบหน้าให้สวยงามแล้ว ฟิลเลอร์ยังสามารถช่วยรักษาและลดรอยแผลเป็นที่มีสีเข้มสะดุดตาให้จางลงได้ แต่ผลลัพธ์จะไม่คงทนถาวรนะครับ คนไข้จะต้องมาฉีดเติมทุกๆ 6-8 เดือนเพราะสาร HA จะสลายตัวไปเองเมื่อเวลาผ่านไปครับ
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
หลังทําหน้าอก กินอะไรได้บ้าง อาหารหลังทำนม ลดบวม แผลหายไว
บทความ : ลดบวมช้ำ หลังทำศัลยกรรมด้วยการกินฟักทอง
8 ข้อห้ามหลังทำหน้าอก วิธีดูแลให้แผลหายไวๆ ทรงสวยนาน