การฉีดโบท็อกซ์ เป็นการฉีดเพื่อช่วยยกกระชับรูปหน้า ลดริ้วรอย ตีนกา ร่องแก้ม ได้สารพัดอย่าง แถมวิธีก็ง่ายได้ผลลัพธ์ในเวลาอันรวดเร็ว จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม การฉีดโบท็อกซ์จึงเป็นวิธีที่สาว ๆ หลายคนนิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน แต่พอเราฉีดโบท็อกซ์ซ้ำ ๆ หลายครั้ง ร่างกายดันเกิดปฏิกริยาต่อต้าน หรือที่เรียกกันว่า “ การดื้อโบท็อกซ์ ” นั้นเอง จึงทำให้การฉีดโบท็อกซ์ไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ควร
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเรามีอาการดื้อโบท็อกซ์ ?
ประสิทธิภาพของฤทธิ์ยาโบท็อกซ์ที่เคยอยู่ได้นานก็ลดลง คือจากเดิมที่เราเคยฉีดแล้วมีฤทธิ์ยาอยู่ได้นานถึง 6 เดือน ฤทธิ์ยาก็ลดเหลือแค่ 4 เดือน และลดลงเรื่อยๆ จนในที่สุดการฉีดโบท็อกซ์ก็ไม่ได้ผล แต่ถ้าอยากได้วิธีที่ที่ทำแล้วรู้เลยว่าเรามีภาวะดื้อ Botox แบบเห็นได้ชัด ก็ลองทำการทดสอบโดยให้แพทย์ฉีดหน้าผากหรือจุดที่มีริ้วรอยเพียงฝั่งเดียว และรอดูผลลัพธ์หลังจากนั้นอีก 2 สัปดาห์ ถ้าริ้วรอยไม่หายไปนั้นแสดงว่ามีอาการดื้อโบท็อกซ์
เคล็ดลับง่ายๆ ถ้าไม่อยากเจอปัญหาของอาการดื้อโบท็อกซ์
1.ควรฉีดเพียง 2 ครั้งต่อ 1 ปี
ด้วยความที่โบท็อกซ์ เป็นสารสกัดจากธรรมชาติจึงมีอายุที่สามารถอยู่ในร่างกายของเราได้ประมาณ 3-4 เดือนเท่านั้น (แล้วแต่บุคคล) จากนั้นก็จะค่อยๆ สลายไป หน้าของเราก็คืนสู่สภาวะปกติ จึงต้องมีการฉีดซ้ำเรื่อยๆ สำหรับความถี่ในการฉีดโบท็อกซ์ ควรฉีดต่อเนื่องในระยะที่เหมาะสม ไม่ถี่จนเกินไป
2.ใช้กล้ามเนื้อให้น้อยลง หลีกเลี่ยงการกระตุ้น
หลังจากฉีดโบท็อกซ์ไปสักระยะหนึ่งแล้ว หากกล้ามเนื้อไม่ได้ใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้ขนาดกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์เล็กลงและทำให้โบท็อกซ์อยู่ได้นานขึ้น แต่ถ้ากล้ามเนื้อถูกกระตุ้นให้ใช้งานบ่อย เช่น ยิ้ม เลิกคิ้ว กล้ามเนื้อจะแข็งแรงขึ้นและทำให้โบท็อกซ์อยู่ได้สั้นลง
3.ควรฉีดโดยแพทย์ผู้ที่มีความชำนาญ
เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอที่มีความชำนาญในการประเมินกล้ามเนื้อที่จะฉีด ว่าจุดไหนควรฉีดเท่าไหร่ ความลึกเท่าไหร่ หากฉีดไม่ตรงจุด ก็จะเกิดปัญหาทำให้เห็นผลลัพธ์ช้าหรืออยู่ได้สั้นลงและสารที่ฉีดก็ปลิวกระจาย และอาจจะไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาทำให้มี “ภาวะดื้อ Botox” ตามมาได้
พอรู้แบบนี้แล้ว ใครที่ชอบการฉีดโบท็อกซ์ จะต้องระมัดระวัง ศึกษาหาข้อมูลของคลินิกให้ดี เลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาต รวมถึงเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้ชำนาญการด้วย เพื่อความปลอดภัย และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี อย่าเห็นแก่ของถูกเด็ดขาดเพราะความสวยต้องมีการลงทุน
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
บทความ : รู้หรือไม่ โบท็อกซ์ มีประโยชน์มากกว่าที่คุณรู้
บทความ : โบทูลินั่ม แอนตี้ท็อกซิน คืออะไร
บทความ : ตอบทุกคำถามเกี่ยวกับ ฉีด โบท็อกซ์ “Botulinum Toxin ช่วยได้มากกว่าลดริ้วรอย”