ซิลิโคนพลิก จากการเสริมหน้าอก ทำอย่างไรดี ต้องแก้หน้าอกหรือไม่?

ซิลิโคนพลิก ปัญหาที่คนไข้ในการศัลยกรรมหน้าอกหลายๆ คนสามารถพบเจอได้ โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้ก็มีอยู่หลายประการด้วยกันครับ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากการผ่าตัด ปัญหาเนื้อที่ในทรวงอก หรือแม้กระทั่งปัญหาหน้าอกหย่อนยาน ก็สามารถทำให้เกิดอาการซิลิโคนหน้าอกพลิกได้เช่นกัน อย่างไรก็ดี อาการเช่นนี้ไม่ได้ส่งผลอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด แต่จะทำให้หน้าอกนั้นผิดรูปอันเป็นเหตุให้คนไข้เสียความมั่นใจได้นั่นเองครับ ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาคุยกันเกี่ยวกับปัญหานี้ รวมถึงวิธีแก้ที่สามารถทำได้ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนไข้และผู้ที่กำลังตัดสินใจทำศัลยกรรมหน้าอกกันครับ

ซิลิโคนพลิก หลังเสริมหน้าอก เกิดจากอะไร พลิกกลับเองได้หรือไม่?

จากที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นครับว่า อาการซิลิโคนหน้าอกพลิกเช่นนี้ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่การผ่าตัด จนกระทั่งพฤติกรรมของตัวคนไข้เองด้วย ซึ่งแต่พลิกของซิลิโคนนั้นไม่ได้ส่งผลอันตรายใดๆ เพียงแต่อาจสร้างความกังวลและรำคาญใจให้กับคนไข้ เนื่องจากหน้าอกเกิดการผิดรูปนั่นเอง อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้ ควรทำอย่างไร ต้องกลับมาพบแพทย์หรือไม่ หรือคนไข้สามารถพลิกกลับได้เองหรือเปล่า ในบทความนี้เราจะมาคุยกันครับ

ซิลิโคนหน้าอกพลิก เกิดจาก…

สาเหตุของการเกิดซิลิโคนหน้าอกพลิกเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุและหลายปัจจัยด้วยกันครับ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 ข้อหลักๆ ดังนี้

ข้อผิดพลาดจากการผ่าตัด

โดยทั่วไปแล้วในการผ่าตัดศัลยกรรมทรวงอกด้วยการนำซิลิโคนมาเสริมนั้น ไม่ว่าจะด้วยการวางซิลิโคนในตำแหน่งใต้หรือเหนือชั้นกล้ามเนื้อก็ตาม คุณหมอต้องทำการโพรงไว้สำหรับการนำซิลิโคนเข้าไป แต่ในความผิดพลาด คุณหมออาจทำโพรงไว้ใหญ่เกินไป จึงทำให้มีพื้นที่กว้างจนซิลิโคนสามารถพลิกได้นั่นเองครับ

นวดซิลิโคนหลังเสริมหน้าอก

แท้จริงแล้ว การนวดหน้าอกหลังเสริมโดยซิลิโคนสามารถทำได้ครับ แต่ในการนวดนั้นต้องนวดด้วยวิธีที่ถูกต้องด้วย เพราะเป็นเรื่องปกติที่คนไข้จะมีอาการเจ็บตึงหลังการนำซิลิโคนเข้าไป จึงทำการนวดเพื่อบรรเทาอาการปวดนั้นๆ หากแต่เมื่อนวดเเรงเกินไป และนวดด้วยวิธีที่ผิด ก็ทำให้ซิลิโคนหน้าอกพลิกได้ ดังนั้น ก่อนจะนวด ก็จำเป็นต้องศึกษาวิธีการนวดให้ดี หรือปรึกษากับแพทย์ก่อนจะดีกว่านะครับ

หน้าอกหย่อนยาน

ด้วยสาเหตุนี้ จะคล้ายกันกับสาเหตุแรกครับ คือช่องหรือโพรงซิลิโคนสำหรับทรวงอก มีเนื้อที่ที่มากเกินไป จึงทำให้ซิลิโคนหน้าอกพลิกได้ หากแต่ข้อนี้มีต้นตอมาจากเนื้อหน้าอกที่หย่อนยานลง จึงส่งผลให้โพรงของซิลิโคนเกิดการขยายตัวและหลวมได้ ตำแหน่งของซิลิโคนจึงเคลื่อนและพลิกกลับด้านในที่สุดครับ

หากเกิดอาการซิลิโคนหน้าพลิก ตำแหน่งการวางซิลิโคนใต้-เหนือชั้นกล้ามเนื้อจะแตกต่างกันหรือไม่?

สงสัยกันไหมครับว่า การวางซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อหรือใต้กล้ามเนื้อเราจะรู้ได้ไงว่าซิลิโคนหน้าอกพลิกแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งทั้ง 2 ตำแหน่งมีข้อแตกต่างกันอยู่ ดังนี้ครับ

การผ่าตัดวางซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อ

มีโอกาสพลิกได้ง่ายกว่าใต้กล้ามเนื้อและเห็นได้ชัดกว่า นั่นเอง

การผ่าด้ดวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ

มีโอกาสพลิกได้เหมือนกันแต่จะดูยากกว่าและเห็นได้ไม่ชัดเท่ากับเนื้อกล้ามเนื้อครับ

ลักษณะอาการซิลิโคนหน้าอกพลิก

สำหรับอาการของซิลิโคนหน้าอกพลิกนั้นสามารถสังเกตได้ง่ายๆ ครับ ซึ่งสามารถดูได้จากหน้าอกด้วยตาเปล่าได้เลย จากที่ทราบกันดีว่าการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนนั้นจะต้องเสริมเข้าไปทั้ง 2 ข้าง แต่เวลาที่ซิลิโคนหน้าอกพลิก จะพลิกแค่ข้างเดียวครับ ซึ่งจากปกติการวางซิลิโคนด้วยตำแหน่งที่ถูกต้อง ฐานของซิลิโคนจะชิดติดกับชั้นกล้ามเนื้อหน้าอกที่วางลงไป ส่วนตัวโดมจะหันหน้าออกมาด้านหน้าของเต้านม แต่เมื่อซิลิโคนเกิดการพลิก จะกลับกลายเป็นว่าตัวโดมหันเข้าชั้นกล้ามเนื้อและตัวฐานของซิลิโคนจะหันออกทางด้านหน้าของเต้านมแทน เมื่อเป็นเช่นนั้น คนไข้จะสังเกตเห็นขอบของซิลิโคนขึ้นมา คล้ายๆ กับจานเลยนั่นเองครับ โดยในบางเคสก็มีอาการเจ็บด้วย ซึ่งเมื่อเกิดการพลิกของซิลิโคนอย่างเลี่ยงไม่ได้ และมีอาการเจ็บร่วมด้วย ควรรีบเข้าปรึกษาแพทย์ทันทีครับ

แนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาซิลิโคนหน้าอกพลิก

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหานี้ก็มีอยู่ไม่เพียงกี่ทางครับ ซึ่งสามารถจำแนกออกได้เป็น 3 แนวทาง ดังนี้

1. พิจารณาคลินิกให้ดีก่อนเข้ารับการบริการ

จากที่ผมเคยชี้แจ้งให้คนไข้ได้ศึกษาข้อมูลในหลายๆ บทความที่ผ่านมาครับว่า การเลือกและพิจารณาคลินิกและทีมแพทย์นั้น สำคัญมาก เนื่องจากหากคนไข้เลือกคลินิกที่ไม่มีมาตรฐานและทีมแพทย์ไม่มีความชำนาญมากพอ ก็จะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้เรื่อยๆ ดังนั้น เพื่อป้องกันไว้ก่อน คนไข้จำเป็นต้องพิจารณาและศึกษาข้อมูลของคลินิกนั้นๆ ให้ดี เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั่นเองครับ

2. เข้าพบแพทย์

แม้จะไม่ส่งผลอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย แต่ก็ไม่ควรปล่อยปละละเลย หากคนไข้เกิดอาการเจ็บร่วมด้วย ต้องรีบเข้าปรึกษาแพทย์โดยทันทีเพื่อตรวจให้ละเอียดและหาแนวทางการรักษาและแก้ไขต่อไปครับ เนื่องด้วยในบางเคสอาจจะต้องนำซิลิโคนออก แต่ในบางเคสก็ไม่จำเป็นต้องเอาออก จึงเป็นเห็นผลว่าทำไมคนไข้ต้องเข้าพบแพทย์เพื่อเช็กให้ละเอียดตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นครับ

3. นวด / พลิก ซิลิโคนกลับมาด้วยตนเอง

จริงๆ แล้ว เมื่อเกิดกรณีนี้ขึ้น คนไข้สามารถนวดทรวงอกเพื่อพลิกซิลิโคนกลับมาเองได้ครับ เพราะการนวดจะทำให้ตัวซิลิโคนนิ่มลง และพลิกได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ ก็ต้องทำการนวดในวิธีที่ถูกต้องด้วยนะครับ หรือนวดด้วยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการพลิกซ้ำอีกครับ

ท้ายที่สุด ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า แม้ปัญหาซิลิโคนหน้าอกจะไม่ได้ส่งผลอันตรายต่อร่างกาย แต่ก็ไม่ควรปล่อยละเลยไปนานๆ เพราะนอกจากจะทำให้ตัวคนไข้รำคาญใจเพราะหน้าอกผิดรูปแล้ว ก็อาจเกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ด้วย ดังนั้น ต้องป้องกันไว้ตั้งแต่แรกเริ่มด้วยการเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อที่คนไข้จะได้สวยอย่างปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อปัญหาหลังทำหน้าอกบ่อยครั้งนั่นเองครับ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บทความ : อาหารต้องห้าม หลังทำ “ศัลยกรรม”

บทความ : 5 ตัวช่วยลดบวมช้ำหลังทำศัลยกรรม

บทความ : 4 ข้อควรรู้ก่อน “อัพไซส์” ศัลยกรรมเสริมหน้าอก แบบมั่นใจ ต้องอ่าน!!