ฉีดฟิลเลอร์ทั้งที หลายคนคงกลัวใจว่าจะเป็นการฉีดสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในใบหน้าของเรา อาจจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ แต่บอกเลยว่า ไม่ต้องกังวลครับ เพราะการฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้มีข้อห้ามมายมากหรือน่ากลัวอย่างที่คิด แล้วถ้าเราไม่อยากให้เกิดรอยเขียวช้ำ หรือบวมหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ แค่ทำตามที่หมอบอกก็สบายใจได้เลยครับ
การปฏิบัติตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์
- คนไข้ควรศึกษาข้อมูล เพื่อเลือกคลินิก เลือกแพทย์ที่ทำหัตถการ และเทคนิคที่แพทย์ใช้ เพื่อมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และไม่มีผลเสียตามมาทีหลัง
- ประมาณ 1 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยงอาหารเครื่องดื่มประเภท กระเทียม ขิง ใบแปะก๊วย และควรงดยาแอสไพริน, Diclofenac และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มวิตามินอี , น้ำมันตับปลา เนื่องจากเป็นกลุ่มที่อาจส่งผลให้เลือดแข็งตัวช้า ช้ำง่ายและบวมนานกว่าปกติ ทั้งนี้สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว และต้องทานยาในกลุ่มนี้เป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนครับ
บทความ : ก่อนฉีดฟิลเลอร์ (HA) จำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง??
อาหารที่ควรงดก่อนฉีด
ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ หมอแนะนำควรหลีกเลี่ยงอาหารเครื่องดื่ม ประเภท กระเทียม ขิง ใบแปะก๊วย แอลกอฮอล์ โสม กลุ่มน้ำมันที่เป็นโอเมก้า-3 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มวิตามินอี กลุ่มยาจำพวกแอสไพริน ยาแก้ปวด หรือยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า หากทานสารอาหารเรานี้จะทำให้เกิดอาการฟกช้ำได้ครับ
การดูแลตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์
- งดทาเครื่องสำอาง ครีมบำรุง รวมทั้งงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนประมาณ 24 ชั่วโมง
- ช่วงแรก ๆ หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนต่าง ๆ เช่น เตาปิ้งย่าง ไดร์เป่าผม น้ำอุ่น และอบซาวน่า
- งดการกด นวด เกา บริเวณที่ฉีดFiller ประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากอาจทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูปได้
- ควรดื่มน้ำปริมาณมากๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำ ฟู สวย และเติมเต็มมากขึ้น
- หากมีอาการบวม หรือช้ำ ควรประคบเย็นได้ หรือหากมีอาการปวด สามารถทานยาแก้ปวดได้ครับ
อาหารที่ควรทานหลังฉีดฟิลเลอร์ ที่ทำให้แผลหายเร็ว
หลังการฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่ได้มีข้อห้าม ให้งดอาหารเหมือนก่อนฉีดฟิลเลอร์ แต่มีอาหารกลุ่มหนึ่งที่หมอแนะนำให้รับประทานหลังการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อช่วยให้รอยแผลหายไวขึ้น ได้แก่ อาหารที่มีวิตามินเอ,ซี สูง ผลไม้รสเปรี้ยว สาหร่าย เพราะอาหารพวกนี้จะมีส่วนที่ช่วยทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และยังเป็นผลดีที่ทำให้รอยแผลหายไวขึ้น
หมอบอกแล้วว่าการฉีดฟิลเลอร์ดูแลไม่ยากอย่างที่คิด หากใครมียาที่รับประทาน เป็นยาสำหรับโรคประจำตัว หรือกลุ่มอาหารเสริมบางชนิด อาจจะแจ้งแพทย์ก่อนที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ ว่าจำเป็นต้องหยุดยาหรืออาหารเสริมประเภทนั้นๆไหม และถ้าหลังฉีดฟิลเลอร์ไปแล้ว อยากให้ผิวดูเต่งตึงขึ้นมากกว่าปกติ และแผลหายเร็วขึ้นก็รับประทานอาหารตามที่บอกข้างต้นได้เลย และหลังการฉีดฟิลเลอร์อย่าลืมดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 3-4.5 ลิตร ในช่วงวันแรกๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำมากยิ่งขึ้น
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- บทความ : ก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์ควรงดอาหารอะไรบ้าง
- บทความ : ฟิลเลอร์สลายได้จริงเหรอ!! ปัจจัยที่ส่งผลต่อการสลายตัวของฟิลเลอร์
- บทความ : เคล็ดลับ ยืดอายุฟิลเลอร์ วิธีดูแลฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นาน
