ฉีดไขมัน vs ฉีดฟิลเลอร์ อะไรดีกว่า ?
ระหว่างการฉีดไขมันหน้า กับ ฟิลเลอร์ อะไรแพงกว่ากัน หมอไม่สามารถจะคอนเฟิร์มได้ขนาดนั้น เพราะต้องดูจากความต้องการของคนไข้ว่าต้องการฉีดในปริมาณมากน้อยเพียงใด เช่น คนไข้ต้องการฉีดทั่วหน้า หากคนไข้เลือกฉีดฟิลเลอร์ก็อาจจะใช้ในปริมาณที่เยอะ ประมาณ 10 ซีซีขึ้นไป ซึ่งหากคำนวณราคาก็จะแพงมากทีเดียว ส่วนไขมันนั้น เป็นทรัพยากรที่อยู่ในตัวของเราเอง คุณหมอสามารถฉีดให้ได้เต็มที่เท่าไหร่ก็ได้ตามที่ไขมันของคนไข้จะมีเพียงพอ ซึ่งตามที่หมออธิบายนั้น หากคำนวณแล้ว หมอว่าไขมันถูกกว่าฟิลเลอร์อีกครับ
แต่! ถ้าเราอยากฉีดแค่บางจุด หรือ ไม่ต้องการฉีดเยอะๆ เช่น ฉีดปากให้ยกขึ้น เอิบอิ่มขึ้น และเสริมโหงวเฮ้งที่ดี รวมถึง การฉีดคาง, ฉีดร่องแก้ม, ฉีดใต้ตา ซึ่งฉีดในปริมาณน้อยอาจจะ 2-3 ซีซี หรือ น้อยกว่านี้อีก การเลือกฉีดไขมัน หมอคิดว่าน่าจะค่าใช้จ่ายสูงกว่าฟิลเลอร์อยู่แล้ว คงไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ครับ
ฉีดไขมัน vs ฉีดฟิลเลอร์ อันไหนอันตรายกว่ากัน ?
หากพูดตามความจริงการฉีดฟิลเลอร์ หากฉีดฟิลเลอร์แท้ ได้มาตรฐานก็ไม่มีเรื่องต้องกังวล เพราะสามารถสลายเองได้ตามอายุของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้ออยู่แล้ว แต่หากฉีดฟิลเลอร์ปลอมเป็นอันตรายแน่นอนครับ เพราะมีผลเสียตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ไหลย้อย ผิวอักเสบ ติดเชื้อ เป็นผังพืด หรือหน้าผิดรูปได้ครับ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นฉีดไขมัน หรือฟิลเลอร์ก็อันตรายได้ ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์ที่ทำหัตถการครับ ซึ่งทางคลินิกเราเคร่งครัดและตระหนักเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างมาก
ฉีดไขมัน vs ฉีดฟิลเลอร์ อันไหนเจ็บตัวและพักฟื้นน้อยกว่า?
นับว่า เป็นข้อดีของฟิลเลอร์เลยครับ ฉีดปุ๊ปสวยปั๊บ สามารถกลับไปทำงาน หรือไปไหนได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้นเลย แต่ถ้าฉีดไขมันจะมีอาการเจ็บเล็กน้อยหลังจากที่ทำเสร็จ เนื่องจากมีกระบวนการดูดไขมันส่วนเกินจากต้นขาของตัวเราเอง นำไปผ่านกระบวนการปั่นไขมันให้แน่น และแยกขนาดไขมัน ก่อนที่จะฉีดลงสู่ผิวในขั้นตอนสุดท้าย จึงใช้เวลาทำหัตถการนานกว่าฉีดฟิลเลอร์ และเมื่อฉีดเสร็จแล้วช่วงแรกๆ จะยังไม่เข้าที่เต็มร้อย ต้องรอเวลานานกว่าฟิลเลอร์ ดังนั้นใครที่อยากสวยเร็ว ทันใจ ไม่มีเวลาพักฟื้นนาทีนี้ก็ต้องฉีดฟิลเลอร์แล้วละครับ
จุดอันตรายบนใบหน้า..ฉีดไขมัน ดีกว่าจริงไหม?
ทุกจุดบนใบหน้า ไม่ว่าจะบริเวณไหนก็อันตรายเหมือนกันครับ และก็ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์หรือไขมันก็อันตรายได้ เพราะมันคือ เส้นประสาทจุดเดียวกัน หากอยากให้ปลอดภัยที่สุด ต้องห้ามพลาด 3 เรื่องนี้
- เลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์จริงๆ เพื่อประเมินว่าสามารถฉีดจุดไหนได้ จุดไหนไม่สามารถฉีดได้
- เทคนิคที่แพทย์ใช้ในการฉีด เพื่อให้ฟิลเลอร์และไขมันติดดี และอยู่นานมากขึ้น
- ชนิดฟิลเลอร์ หรือไขมันที่เลือกใช้ หากเป็นฟิลเลอร์ นอกจากจะเป็นฟิลเลอร์แท้ได้รับมาตรฐานแล้ว แพทย์ยังต้องเลือกยี่ห้อที่เหมาะสมกับปัญหา และตำแหน่งที่ฉีดด้วยครับ ส่วนไขมันนั้น จะต้องมีขั้นตอนที่มีมาตรฐาน ผ่านกระบวนการที่ปลอดเชื้อ เพื่อแก้ปัญหาได้ถูกจุด พร้อมได้ผลลัพธ์ที่ดี
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หมออยากบอกทุกคนว่า ทั้งไขมันและฟิลเลอร์ เอาจริงๆ มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ ว่าต้องการแบบไหน ชอบแบบไหนมากกว่า หากเราต้องการฉีดในปริมาณน้อย หรือ หน้าสวยอยู่แล้ว อยากเติมแค่บางจุด อยากสวยทันใจ และไม่มีเวลาพักฟื้น ลางานไม่ได้ ก็แนะนำฟิลเลอร์เลย แต่หากเราต้องการฉีดในปริมาณเยอะ หรือใบหน้าตอบมาก อีกอย่างมีเวลาฟักฟื้น แนะนำให้ฉีดไขมันอาจจะเหมาะกว่า ตอบโจทย์กว่าครับ แต่ยังไงไม่ว่าจะฉีดอะไรก็อย่าลืมศึกษาก่อนทำ ปรึกษาแพทย์ที่ชำนาญ รวมทั้งมีผลงานที่น่าเชื่อถือ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัยนะครับ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
บทความ : ฉีดไขมันหน้า ฉีดไขมันหน้าเด็ก กี่วันหายบวม?
รีวิว : เติมไขมันหน้ากับหมอกัน หน้าเด็กลงเป็น 10 ปี
บทความ : ฉีดไขมันหน้า ช่วยทำให้หน้าเด็ก อ่อนเยาว์จริงเหรอ?
นัดจองคิวล่วงหน้า หรือ ปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่


นพ.รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ (หมอกันต์) แพทย์ศัลยกรรมมือหนึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านเสริมความงาม การแก้ไขจมูกเทคนิค Open Reconstruction ออกแบบรูปหน้าและทรงจมูกตามหลัก Anatomy รวมถึงบริการทางด้านการดูแลผิวพรรณ เลเซอร์ โบท็อกซ์ (Botox) ฟิลเลอร์ (Filler) ร้อยไหม เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานผ่าน อย. และการผ่าตัดเสริมความงามทั่วเรือนร่าง เสริมจมูก เสริมหน้าอก ดูดไขมัน ตาสองชั้น ยกกระชับผิว เก็บกรอบหน้า ปั้นหน้าเด็ก และรักษาไฝ ฝ้า กระ จุดด่างดำ แบบครบวงจร การันตีฝีมือและผลงานด้วยรีวิวเยอะที่สุด มีมากกว่า 10,000 เคส