ฟิลเลอร์ ( Filler ) คืออะไร? เป็นสิ่งแรกที่คนไข้ ต้องทำความเข้าใจให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจฉีดตัวนี้
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็ม ใช้สำหรับฉีด เพื่อเติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนัง หรือ ใต้ผิวหนัง ส่วนใหญ่ แล้วหมอจะใช้ฟิลเลอร์ เพื่อลดและแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึก ที่เกิดขึ้นบริเวณต่างๆ ของใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น หน้าผาก ริ้วรอยร่องลึกรอบดวงตา ริ้วรอยร่องลึกมุมปาก และยังสามารถนำมาช่วยในการแก้ไขปรับแต่งรูปหน้า ด้วยฟิลเลอร์ได้อีกด้วยครับ เช่น เติมริมฝีปาก ร่องแก้ม และในบางรายที่เมื่อ เริ่มมีอายุมากขึ้นทำให้แก้มดูตอบลงก็สามารถใช้ฟิลเลอร์ ในการแก้ปัญหาแก้มตอบได้เช่นกัน หรือนำมาใช้ในการบำรุงผิวให้กลับกระชับเปล่งปลั่ง ในบริเวณใบหน้า ลำคอ หลังมือ หรือบริเวณผิวหน้าอกก็นิยมทำกันไม่น้อยครับ การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลดริ้วรอยหรือปรับแต่งรูปหน้า ด้วยฟิลเลอร์นั้น โดยทั่วไปหมอใช้เวลาในการฉีดประมาณ 15-30 นาที คนไข้จะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย ในบางรายอาจมีอาการเจ็บ บวม ปวด คัน แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1-2 วัน หลังจากฉีดเสร็จ ก็สามารถกลับบ้านได้ตามปกติ แต่คนไข้ที่ฉีดต้องระมัดระวังไปกด หรือ นวดแรงๆ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ในช่วงแรก
ประเภทของฟิลเลอร์
1.แบบชั่วคราว (Temporary Filler)
จะมีอายุการใช้งานโดยประมาณ 4-6 เดือน มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง และยังสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ
2.แบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler)
แบบนี้จะมีอายุยาวกว่าแบบแรก สามารถอยู่ได้นานประมาณ 2 ปี มีความปลอดภัยในระดับปานกลาง
3.แบบถาวร (Permanent Filler)
จะเป็นสารเติมเต็มจำพวก ซิลิโคน หรือ พาราฟิน หลังฉีดไปแล้วจะสามารถอยู่ในผิวไปได้ตลอด ไม่สลายไปตามธรรมชาติ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงในระยะยาว
ข้อดี ของการฉีดฟิลเลอร์
คือ จะสามารถเห็นผลการฉีดได้เลยทันทีครับ ง่ายต่อการรักษาริ้วรอย ใช้เวลาในการฉีดเพียงไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น ที่สำคัญการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในชั้นผิวหนัง หากได้รับการฉีดโดยหมอผู้ชำนาญ แทบจะไม่เป็นอันตรายและมีผลข้างเคียงน้อยครับ สามารถย่อยสลายไปได้เองตามกระบวนการการทำงานของร่างกาย
ข้อเสีย ของการฉีดฟิลเลอร์
คือ ถ้าคนไข้ฉีดเยอะ อาจจะดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ถ้าเกิดฉีดในปริมาณมาก เช่น แก้มตอบมาก ขมับบุบมาก หน้าผากแบน ก็ต้องใช้ ฟิลเลอร์ในปริมาณเยอะครับ ซึ่งถ้าบางเคสต้องใช้ปริมาณเยอะขนาดนั้น จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก แต่ถ้าคนไข้มีงบประมาณมากพอ และ ไม่อยากพักฟื้น ฟิลเลอร์ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีเลยครับ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
- ควรดื่มน้ำให้มากๆเพราะจะช่วยให้ฟิลเลอร์ คงสภาพได้นานขึ้น
- ไม่ควรใช้เครื่องสำอางเป็นเวลา12 ชั่วโมงหลังการฉีด
- ไม่ควรออกกำลังกายในช่วง48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด
- ไม่ควรถู หรือ ขัดหน้าแรงๆบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- ไม่ควรให้ใบหน้าสัมผัสกับความร้อนจัด เช่น การซาวน่า หรือตากแดด
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
บทความ : 6 จุดยอดฮิตที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วปังแบบฉุดไม่อยู่ !!
บทความ : เลือกแบบไหนดี? ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แตกต่างกันยังไง
บทความ : “หลังฉีดฟิลเลอร์” ดูแลตัวเองอย่างไร?