- ซิลิโคนแบบขายาว : เหมาะสำหรับคนไข้ที่มี แนวกรามใหญ่ แก้มเยอะ เพื่อจะเก็บกรอบหน้า เก็บแก้มให้เรียวมากขึ้นครับ
- ซิลิโคนแบบขาสั้น : สำหรับเสริมคางได้ทุกรูปแบบ หรือ คนไข้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติครับ เสริมคาง จะเป็นการผ่าตัดเล็ก โดยใช้ซิลิโคนชนิดเดียวกัน กับที่ใช้ในการเสริมจมูก มาเหลาปรับทรงตามความเหมาะสม จากนั้นก็นำมาใส่บริเวณคาง เสริมคางด้วยซิลิโคน จะแบ่งออก เป็น แผล 2 ตำแหน่ง คือ
1.เสริมคางแผลใน
คือ การผ่าตัดแบบเปิดแผลในปาก วิธีนี้หมอทำการเปิดแผลด้านในของปาก ตรงซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง ความยาวของแผลประมาณ 2 ซม. ข้อดีของการเปิดแผลในปาก คือ บวมช้ำเล็กน้อย รอยต่อน้อย ไม่เห็นรอยแผลเป็นด้านนอก แต่ก็ต้องหมั่น ดูแลทำความสะอาดช่องปาก เพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบและการติดเชื้อ ในตอนแรกหลังผ่าตัดจะต้องทานอาหารอ่อน ๆ และงดอาหารรสจัด ส่วนใหญ่คนไข้มักจะเลือก เสริมคางแผลในมากกว่าครับ

2.เสริมคางแผลนอก
คือ การผ่าตัดเปิดแผลบริเวณใต้คางโดยจะทำการเปิดแผลขนาดประมาณ 2 – 3 ซม. สำหรับเสริมคางแผลนอก จะเป็นที่นิยม น้อยกว่าการ เสริมคางแผลใน เพราะวิธีนี้คนไข้บางคนอาจเกิดแผลเป็นนูน หรือ คีย์ลอยด์หลังผ่าตัด แต่การดูแลหลังผ่าตัดจะสะดวกมากกว่าแผลภายในครับ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
บทความ : 6 จุดยอดฮิตที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วปังแบบฉุดไม่อยู่ !!
บทความ : เสริมคาง “เปลี่ยนสาวหน้ากลมเป็นหน้ารูปไข่” ได้จริงมั้ย?
บทความ : แค่คางมา…โครงหน้าก็สวย เป๊ะ ปัง!!
นัดจองคิวล่วงหน้า หรือ ปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่


นพ.รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ (หมอกันต์) แพทย์ศัลยกรรมมือหนึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านเสริมความงาม การแก้ไขจมูกเทคนิค Open Reconstruction ออกแบบรูปหน้าและทรงจมูกตามหลัก Anatomy รวมถึงบริการทางด้านการดูแลผิวพรรณ เลเซอร์ โบท็อกซ์ (Botox) ฟิลเลอร์ (Filler) ร้อยไหม เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานผ่าน อย. และการผ่าตัดเสริมความงามทั่วเรือนร่าง เสริมจมูก เสริมหน้าอก ดูดไขมัน ตาสองชั้น ยกกระชับผิว เก็บกรอบหน้า ปั้นหน้าเด็ก และรักษาไฝ ฝ้า กระ จุดด่างดำ แบบครบวงจร การันตีฝีมือและผลงานด้วยรีวิวเยอะที่สุด มีมากกว่า 10,000 เคส