ซิลิโคนทะลุ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนครับ เพราะร่างกายของมนุษย์เรานั้นจะมีระบบกลไก ปกป้องสิ่งแปลกปลอมจากภายนอก ซิลิโคนเป็นสิ่งแปลกปลอมทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาต่อต้านขึ้น ทำให้ซิลิโคนถูกดันมาที่ปลายจมูก ทำให้เกิดอาการแดงที่ปลายจมูกและยังส่งผลให้ปลายจมูกนั้นบางลง โดยเสร็จสิ้นขบวนการต่อต้านของร่างกายนั้นก็คือการที่ซิลิโคนดันทะลุออกมาจากปลายจมูก โดยการแก้ไขนั้นต้องนำซิลิโคนออก และใช้เนื้อเยื่อจากส่วนอื่นมาเติมที่ปลายจมูก แต่หากร่างกายต่อต้านมากๆต้องนำซิลิโคนที่เสริมจมูกนั้นออกสถานเดียวเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง
สัญญาณเตือนก่อน “ซิลิโคนทะลุ” !!
1. ปลายจมูกสะท้อนแสงมากกว่าส่วนอื่น อาจเกิดจากผิวหนังนั้นบางกว่าส่วนอื่นทำให้ซิลิโคนที่อยู่ใต้ผิวหนังเริ่มสะท้อนแสงออกมา
2. ลูบปลายจมูกแล้วรู้สึกเสียวๆ เพราะปลายจมูกมีเซลรับประสาทสัมผัสมากกว่าส่วนอื่น การที่ลูบแล้วรู้สึกเสียวแปลบมากขึ้นแสดงว่า ผิวเราเริ่มบางลง
3. ต้องลงเครื่องสำอางมากกว่าบริเวณอื่น เมื่อผิวบางก็ส่งผลให้เม็ดสีจางหรือลดน้อยลง ทำให้ปลายจมูกมีสีแตกต่างจากส่วนอื่น
4. รูปร่างซิลิโคนมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้เห็นว่ามีการเบี้ยวหรือเอียงหลังเสริมไปนานๆ
5. มีก้อนตะปุ่มตะป่ำบริเวณจมูก เป็นเพราะหินปูนมาเกาะที่ซิลิโคน หรือแคปซูลที่หุ้มภายนอก
6. จมูกยาวหรืองุ้มลงกว่าเดิม เกิดจากการที่ซิลิโคนเคลื่อนที่ลงมา เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดการทะลุของซิลิโคน
7. จมูกเริ่มมีร่องหรือรอยบุ๋ม โดยอาจเกิดจากการที่ผิวหนังด้านบน ยึดติดกับขอบของซิลิโคน ทำให้เห็นเป็นขอบของปลายซิลิโคนชัดเจนขึ้น หรือผังผืดที่เกาะรอบๆปลายซิโคนและค่อยๆรัดตัว
8. มีสิวหัวช้างปลายจมูก กินยาก้อไม่ดีขึ้น สิวหัวช้างคือการที่ผิวหนังอักเสบติดเชื้อ ย่อมส่งผลให้ผิวหนังเป็นแผลและบางลงจนทำให้เห็นซิลิโคนได้
9. จมูกเห็นเงาหรือส่วนของขาซิลิโคนชัดขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจากซิลิโคนที่มีขา ทำให้ผิวหนังบางลง
10. ซิลิโคนทะลุออกมาที่ปลายจมูก ให้รีบติดต่อแพทย์ทันที
ทางธีระธรฌ์คลินิกคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไข้อย่างสูง ก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับการแก้จมูกนั้น ท่านต้องทราบก่อนว่า การแก้จมูกนั้นหลังทำมาแล้วต้องรอระยะเวลา 6 เดือนก่อนจึงจะสามารถแก้ไขจมูกได้ไม่สามารถทำได้ในทันที เนื่องจากเนื้อเยื่อกำลังสร้างตัว เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง เพราะความงาม ต้องให้”ผู้เชี่ยวชาญ” ดูแล