ร้อยไหมกระชับหน้า คือ หนึ่งในหัตถการที่ช่วยปรับรูปหน้าได้สวย เรียวยาวในแบบ V-Shape ที่คนกำลังสนใจอย่างแพร่หลาย และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็คือ การร้อยไหม ซึ่งทางคลินิกได้นำมาใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวหน้า ลดความหย่อนคล้อย และเน้นความกระชับให้ผิวหน้ามากขึ้น แต่เส้นไหมที่หลายคลินิก นำมาใช้มีหลากหลายรูปแบบ และหลายเทคนิคด้วยกัน ขึ้นอยู่กับความชำนาญการ และประสบการณ์ของแพทย์แต่ละท่าน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คนไข้ต้องศึกษาข้อมูลก่อนการทำหัตถการครับ
ในบทความนี้หมอได้รวบรวมคำถามต่างๆ ที่คนไข้เข้ามาปรึกษามักจะสอบถามโดยตรงกับคุณหมอ เพราะเจอคนไข้หลายเคสที่ทราบข้อมูลแบบผิดๆ จึงทำให้หลงผิด และได้รับผลลัพธ์ที่ไม่ดีตามมามากมาย จะมีคำถามอะไรบ้างมาดูกันครับ
การ ร้อยไหมกระชับหน้า คืออะไร?
การรร้อยไหม เป็นการใช้เส้นไหมร้อยเข้าไปในผิวหนังที่มีความหย่อนคล้อย เพื่อดึงและยกกระชับผิวให้กระชับ ช่วยแก้ปัญหาผิวหนังบนใบหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณแก้ม ร่องจมูก ขากรรไกร หน้าผาก โดยจุดที่ดึงจะอยู่บริเวณแก้มล่างถึงผิวบริเวณข้างหู จึงสามารถดึงแก้มที่หย่อนคล้อยให้ตึงจากเดิมได้ทันที
มีปัญหาผิวหน้าแบบไหน? จึงเหมาะกับการร้อยไหม
หัตถการร้อยไหมสามารถทำได้ทั้งหญิงและชาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 20-70 ปี มี Sign of aging ในระดับที่เล็กน้อยถึงรุนแรง หรือมีปัญหาความหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง หรือต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับได้รูป เป็นคนที่มีชั้นผิวหนังที่หนาปกติ หรือ ชั้นไขมันที่ไม่บางจนเกินไป
ทั้งนี้หมอจะวิเคราะห์และประเมินลักษณะผิว และระดับความหย่อนคล้อยของคนไข้ก่อนเลือกชนิดของเส้นไหมก่อนด้วยครับ บางเคสอาจจะต้องใช้ร่วมกับวิธีอื่นในการยกกระชับหน้า เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เช่น การเติมฟิลเลอร์ หรือเติมไขมันหน้าครับ
ข้อดีของการร้อยไหม
เส้นไหมที่ร้อยเข้าไปในผิวหนังสามารถทำให้ผิวที่ย่อนคล้อยตึงขึ้น แก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณแก้ม ร่องน้ำหมาก ขากรรไกร และหน้าผาก ใช้เวลาไม่นาน เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังร้อยเสร็จ ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ และสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้ด้วย ซึ่งหากทำหัตถการกับแพทย์ที่ชำนาญ และด้วยเทคนิคที่ถูกต้องก็ไม่มีความเสี่ยงเลย
ข้อด้อยของการร้อยไหม
เส้นไหมไม่สามารถอยู่ได้ถาวร จะค่อยๆ ละลายไป โดยทั่วไปจะมีอายุประมาณ 8-24 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของเส้นไหม และการดูแล ปฏิบัติตัวของคนไข้หลังร้อยไหม และไหมบางชนิดสามารถอยู่ได้นาน แต่คุณสมบัติขาดความยืดหยุ่น ก็ทำให้มีผลต่อระยะการดึงด้วยครับ
ไหมที่ใช้ร้อยมีกี่แบบ เลือกร้อยไหมแบบไหนดี?
ไหมแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 2 ชนิด คือ ไหมไม่ละลาย และไหมละลาย ในปัจจุบันไหมไม่ละลาย (ไหมทองคำ)ไม่เป็นที่นิยมแล้ว เนื่องจากมักจะมีปัญหาตามมาบ่อย คนจึงนิยมใช้ไหมละลายมากกว่า เพราะมีความปลอดภัย และได้มาตรฐาน ซึ่งไหมละลายจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบด้วยกัน ดังนี้
- ไหม PDO (Polydioxanone) เส้นไหมสีน้ำเงิน ได้รับความนิยมมากที่สุด เหมาะสำหรับการยกกระชับ และดึงหน้าให้เต็งตึง ได้รูป เนื่องจากเนื้อไหมมีความแข็งแรงที่สูง สามารถละลายหายไปเอง ในช่วง 6-8 เดือน แต่การยกกระชับผิวจะยกได้ประมาณ 1-2 ปีเลย
- ไหม PLLA (Polylactate) เส้นไหมสีขาวใส ไม่ค่อยได้รับความนิยมแล้ว เนื่องจากมีเนื้อสัมผัสค่อนข้างนิ่ม จึงพบปัญหาการขาด และการทะลุได้บ่อย จะเหมาะกับการร้อยในบริเวณผิวที่บอบบาง ละลายหมดภายใน 12-18 เดือน
- ไหม PCL (Polycaprolactone) เส้นไหมสีขาวขุ่นๆ มีขนาดใหญ่ที่สุด มีเนื้อสัมผัสค่อนข้างนิ่มเช่นเดียวกับ ไหม PLLA มีอายุค่อนข้างนาน และมีความยืดหยุ่นสูง จะละลายหมดภายในเวลา 18-24 เดือน
แล้วไหมกุหลาบ ไหมก้างปลา ไหม Super v เป็นไหมชนิดไหน ?
ไหม PDO ที่นำมาร้อยมีหลากหลายชื่อที่ถูกเรียกต่างกันไปตามชื่อการค้า หรือแล้วแต่หมอ และคลินิกจะตั้งชื่อเรียกกัน แต่หากแบ่งตามลักษณะของตัวไหมนั้น แบ่งได้ดังนี้ครับ
- ไหมเรียบ (Mono threads) หรือไหมโมโน เป็นไหมละลายเส้นเรียบ ไม่มีเงี่ยง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาย่อนคล้อยเล็กน้อย เพราะแรงดึงค่อนข้างน้อยกว่าไหมตัวอื่นของไหมละลาย ในปัจจุบันจึงแทบไม่มีผู้ที่ร้อยไหมเพื่อยกกระชับใบหน้าโดยใช้ไหมเรียบแล้ว
- ไหมเงี่ยง (Barbed threads หรือ Cog threads) เป็นไหมละลายที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีลักษณะเป็นเงี่ยง คล้ายๆ ก้างปลา หรือหนามกุหลาบ จึงทำให้การดึงผิวมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่า ไหมเงี่ยงจึงเหมาะสำหรับแก้ริ้วรอย ยกกระชับใบหน้า ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนที่อยู่ในช่วงอายุ 20 ปี ขึ้นไป จะช่วยลดความหย่อนคล้อยของใบหน้าได้ ไหมชชิดนี้มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป แต่เป็นชนิดเดียวกัน เช่น ไหมกุหลาบ ไหมก้างปลา ไหมปากฉลาม ไหมโป๊ยเซียน และไหม Super v
- ไหมกรวย (Silhouette soft) เป็นไหมละลายที่มีการพัฒนารูปแบบใหม่มีปมกลมๆ ทรงกรวยเล็กๆ ตามแนวเส้นไหมอยู่ระหว่างปมของเส้นไหม ซึ่งลักษณะเช่นนี้ทำให้จับเนื้อเยื่อได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับการยกกระชับผิวมากกว่าการสร้างคอลลาเจน แต่อย่างไรก็ตาม การใช้ไหมกรวยในการร้อยไหม ต้องใช้ความระมัดระวังมาก เพราะในกรณีที่คนไข้เป็นคนผิวค่อนข้างบาง ส่วนที่เป็นกรวยอาจจะบาดผิวหน้าได้ครับ
ร้อยไหมสามารถยกกระชับจุดไหนได้บ้าง ?
การร้อยไหมสามารถยกกระชับได้หลายจุดไม่ว่าจะเป็นความหย่อนคล้อยบนใบหน้า ริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณแก้ม ร่องน้ำหมาก ขากรรไกร และหน้าผาก นอกจากนี้สามารถยกกระชับบางจุดบนใบหน้าด้วย เช่น
- การร้อยไหมแก้มส้ม ซึ่งจะช่วยเติมเต็มแก้มส้มให้อิ่มฟู ทำให้ใบหน้าดูสดใส อิ่มน้ำ ใบหน้าแลดูอ่อนวัยเหมือนเด็กๆ ไม่หย่อนคล้อยและยังทำให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น สมส่วน ไม่แบนราบ ดูมีเสน่ห์
- การร้อยไหมใต้ต้า เหมาะสำหรับคนใต้ตาคล้ำ ร่องตาลึก เป็นภูมิแพ้ หรือเป็นภูมิแพ้ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูผิว ใต้ตาสว่างสดใสกว่าเดิม
- การร้อยไหมจมูก จะทำให้จมูกขึ้นเป็นสันได้คม และไม่ต้องการผ่าตัด สันคมสวยเร็ว แต่จะไม่ได้ตามที่ต้องการ และในอนาคตหากอยากกเสริมจมูกอาจจะเอาออกยาก
ปัญหาที่พบบ่อยจากคนไข้เคสแก้ ร้อยไหมกระชับหน้า !!
ร้อยไหมถือเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงน้อย แต่หากเลือกไม่ดี ไม่ศึกษาข้อมูลก่อนทำหัตถการก็มีความเสี่ยงเหมือนกันครับ ซึ่งวันนี้หมอจะสรุปคร่าวๆ จากปัญหาที่หลายเคสพบเจอมาจากที่อื่น แล้วมาให้หมอแก้ไขให้
- ร้อยไหมไปแล้วเกิดรอยบุ๋มตามแนวร้อยไหม
เมื่อร้อยไหมเข้าสู่ผิวหนังแล้ว ก่อนดึงเงี่ยงของไหมจะเกี่ยวดึงผิวได้ทันทีตามทิศทางที่ต้องการ แต่หากร้อยผิดวิธี ผิดทิศทาง หรือรอยไม่ถูกชั้นผิดก็อาจทำให้เกิดรอยบุ๋มได้
- ร้อยไหมไปแล้วเป็นผังผืด
หากร้อยไหมตามแนวถูกต้อง ถูกชั้นผิว เส้นไหมจะสร้างเส้นใยคอลลาเจน และอีลาสตินช่วยประคองผิว แต่หากร้อยผิดทิศทาง ผิดชั้นผิว ซ้อนทับกันมากเทานไปก็จะกลายเป็นผังผืดได้ครับ
- ร้อยไหมไปแล้วผิวไหม้ ผิวแพ้
แต่ก่อนการร้อยไหม เลือกใช้ไหมไม่สะลาย ซึ่งจะมีส่วนผสมของโลหะเช่น ทองคำ ไม่สามารถจะผ่านเครื่องสแกนต่างๆได้ เพราะดูดความร้อนอาจเกิดการไหม้ ในปัจจุบันคนจึงนิยมเลือกใช้ไหมละลายแทน เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของโลหะ ไม่มีสารตกค้าง มีความปลอดภัย 100 % ผ่านการรับรองทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- ร้อยไหมแล้วบวมช้ำเยอะ
หลังจากการร้อยไหมมีความเสี่ยงที่จะเกิดการบวมช้ำสูงมาก เพราะบวมจากการฉีดยาชา และเลือดออกใต้ผิวหนัง ซึ่งตามปกติอาการบวมจะดีขึ้นภายใน 3-14 วัน แต่หากเทานนี้หรือเกิดอาการบวมแดงในช่วง 3-4 วันแรก อาจเกิดจากการอักเสบ ติดเชื้อ ทั้งนี้จะบวมมากหรือบวมน้อยจะขึ้นอยู่กับเทคนิค และความชำนาญของแพทย์ที่ร้อยด้วย
ร้อยไหมกระชับหน้า อันตรายไหมนะ?
ผลข้างเคียงต่างๆ ที่เกิดแทรกซ้อนจากการร้อยไหมผิดวิธี และแพทย์ขาดความชำนาญ ส่วนใหญ่ไม่อันตรายมาก และสามารถแก้ไข้ได้ และเข้าพบแพทย์เพื่อให้ดูอาการ มีอะไรบ้างไปดูครับ
- เกิดการติดเชื้อ
เกิดจากกระบวนการที่ไม่ฆ่าเชื้อก่อน ซึ่งพบน้อยมาก เพราะต้องรักษาความปลอดภัยเป็นสำคัญ
- เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อ
เกิดจากการที่ร้อยไหมผิดชั้น คือ ร้อยลึกเทานไป จึงอาจทำให้เนื้อเยื่อเกิดการอักเสบจากปกติได้
- ใบหน้าไม่เท่ากัน
รูปหน้าเดิมของคนไข้อาจจะไม่เท่ากันอยู่แล้ว และระหว่างร้อยไหมแพทย์ไม่ได้ให้คนไข้ส่องกระจกสังเกตใบหน้าจึงอาจทำให้ใบหน้าไม่เท่ากันได้
- ไหมทะลุ
อาจเกิดจากเทคนิคการร้อยไหมของแพทย์ที่ร้อยในชั้นผิวที่ตื้นเทานไป จึงทำให้ไหมทะลุออกมาอีกทางหนึ่งที่นำเข้า จึงทำให้เส้นไหมทะลุผิดที่
- ไหมขาดหรือไหมเด้ง
เกิดจากการแสดงอารมณ์ทางใบหน้าแบบแรงๆ บ่อยๆ หลังจากที่ร้อยไหมไปแล้ว เช่น อ้าปากกว้างๆ หัวเราะแรงๆ อาจทำให้เส้นไหมขาดได้
“ยกกระชับหน้า” แต่ละวิธี แตกต่างกันยังไง?
สำหรับหัตถการ การยกกระชับผิว มีหลายรูปแบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Ulthera,Thermage, HIFU และการร้อยไหม หลายคนอาจสับสน และสงสัยว่าต่างกันยังไง หมอจึงทำตารางสรุปมาให้หายสงสัยกันครับ
การหาข้อมูลและเตรียมตัวก่อนร้อยไหม
- การเลือกคลินิก ซึ่งต้องหาข้อมูลหลายๆ ช่องทางที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถพิจารณาผลการรักษา และการปรับรูปหน้าของคลินิกแต่ละแห่งได้ นั่นก็คือ รีวิวจากคนไข้ที่มาทำจริงที่คลินิกนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพ หรือวิดีโอ ถ้าจะให้น่าเชื่อถือที่สุด อาจจะเป็นภาพวิดีโอ เพราะไม่สามารถปรับแต่งได้เหมือนรูปภาพ
- แพทย์ผู้ทำหัตถการ ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญ และมีประสบการณ์ในการร้อยไหม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้ เพราะจะช่วยลดการบวมช้ำ ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และดูเป็นธรรมชาติ ควรดูจากเคสรีวิวในแหล่งที่เชื่อถือได้ ประสบการณ์ของแพทย์ และความน่าเชื่อถือของคลินิกเป็นหลักเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหลังร้อยไหมครับ
นอกจาก 2 ข้อที่จำเป็นข้างต้นแล้ว ก็มีข้อปฏิบัติทั่วไปเพื่อให้คนไข้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มีดังนี้
- ปรึกษา ควรติดต่อสอบถาม หรือเข้ามาปรึกษาคุณหมอก่อน เพราะหากคนไข้มีสิวหรือเป็นแผลอาจจะต้องเลื่อนวันทำ
- วิตามินหรือยา หากคนไข้ทานวิตามินที่ทำให้เลือดไหลง่ายหยุดยาก หรือเป็นรอยพกช้ำง่าย ก็อาจจะต้องหยุดพักยานั้นก่อน เพราะหลังจากที่ร้อยไหมเสร็จ จะสามารถช่วยไม่ให้พกช้ำได้
การปฏิบัติตัวหลังจากที่ร้อยไหมกระชับหน้า
- งดการนวดหน้า ในช่วง 4 สัปดาห์แรก และงดการทำกิจกรรมที่รุนแรงกับหน้าที่ต้องอ้าปากกว้าง ๆ เพราะอาจจะทำให้หน้าตึงและไหมขยับได้ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพที่ได้ไม่สูงสุด หรือลดน้อยลง
- ประคบเย็นและทานยา ประคบเย็นประมาณ 2 วัน และควรทานยาแก้ปวด และยาฆ่าเชื้อ 3 วัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อไปด้วย
ตอนนี้สำหรับใครที่กำลังคิดจะร้อยไหม คงได้คำตอบ และความรู้ในการเลือกร้อยไหมแล้ว ทั้งนี้อย่าลืมปรึกษาแพทย์ก่อนทำหัตถการด้วยนะครับ
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน