แม้ว่าการแก้จมูกจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ใครหลายคนดูดียิ่งขึ้น แต่หากแก้ไม่ดีโดยแพทย์ผู้ไม่มีความชำนาญมากพอ ก็อาจต้องมาตามแก้ซ้ำ ๆ ซึ่งอาจทำให้เสียทั้งเงินทั้งเวลาหรืออาจทำให้จมูกเสียรูปไปตลอดกาลเลยด้วย วันนี้ผมจึงจะมาพูดถึงปัญหาที่เกิดจากการแก้จมูกบ่อยๆ กันครับ
ทำไมหลายคนถึงต้องแก้จมูกบ่อยๆ
1.เลือกซิลิโคนไม่เข้ากับโครงสร้างใบหน้า
การเลือกซิลิโคนที่เหมาะกับโครงสร้างของคนไข้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะนอกจากจะช่วยกำหนดรูปทรงจมูกแล้ว ยังส่งผลต่อรูปจมูกในอนาคตอีกด้วย เมื่อคนไข้มีอายุเพิ่มขึ้น ชั้นผิวก็จะเริ่มบางลง โดยเฉพาะบริเวณเนื้อปลายจมูกที่อาจจะบางลงจนเสี่ยงต่อการเกิดภาวะจมูกทะลุได้ ทางที่ดีควรเลือกซิลิโคนที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสูง ทั้งนี้หากคุณไม่รู้หรือไม่มั่นใจ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเสริมจมูกทันทีครับ
2. แพทย์ใช้ซิลิโคนสำเร็จรูป
เนื่องจากซิลิโคนสำเร็จรูปไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับทุกคน หากคุณเลือกเสริมจมูกกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานซึ่งใส่ซิลิโคนสำเร็จรูปไปให้คุณโดยที่ไม่ได้เหลาซิลิโคนก่อน อาจส่งผลให้เกิดปัญหาตามมา ไม่ว่าจะเป็นซิลิโคนตึงเกินไป, ซิลิโคนใหญ่เกินไปจนคนไข้ไม่มั่นใจในตัวเอง, ซิลิโคนไม่เข้ากับรูปหน้า, ซิลิโคนกระดก หรืออาจร้ายแรงจนถึงขั้นจมูกทะลุได้อีกด้วย
3. วางซิลิโคนผิดตำแหน่ง
หากแพทย์วางซิลิโคนหรือวัสดุเสริมจมูกผิดตำแหน่ง หรือบางรายอาจเกิดอุบัติเหตุจนเกิดการกระแทกรุนแรงจนทำให้จมูกเอียงได้ จำเป็นต้องรีบกลับมาแก้ไขโดยเร็วเพื่อป้องกันปัญหาจมูกทะลุตามมา
4. ผลลัพธ์ไม่ตรงตามต้องการ
หลายคนอาจเสริมจมูกเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับจมูก แต่ก็มีอีกหลายคนที่แก้จมูกเพื่อให้ใบหน้าดูสวยยิ่งขึ้น แต่หากเสริมจมูกมากับแพทย์ที่มีประสบการณ์น้อย หรือทำกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่น่าเชื่อถือ อาจทำให้เสียเวลามานั่งแก้จมูกอีกหลายรอบ เพื่อให้จมูกดูสวยและเข้ารูปมากที่สุด หรือบางคนอาจแก้จมูกตามความชอบ ณ ขณะนั้น อยู่มาวันหนึ่งเกิดรู้สึกเบื่อจมูกทรงเดิมขึ้นมา ก็ไปพึ่งมีดหมอเพื่อแก้ทรงจมูกใหม่อยู่เรื่อย ๆ

5. ปลายจมูกบาง จมูกรั้งขึ้น
เนื่องจากซิลิโคนไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่ในร่างกายของเราตั้งแต่แรก ร่างกายจึงสร้างพังผืดขึ้นเพื่อปกคลุมซิลิโคน หลังจากนั้นพังผืดจะหดตัวและเห็นรูปทรงซิลิโคนชัดเจน หากปล่อยไว้นานอาจทำให้ปลายจมูกรั้งขึ้น และเสี่ยงต่อภาวะจมูกทะลุได้ด้วย
6. จมูกติดเชื้อ
หากคนไข้ดูแลตัวเองไม่ดีพอ ทำทุกอย่างที่คุณหมอห้าม ใช้บริการจากคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน เลือกใช้วัสดุแย่ ๆ มาใส่ให้คนไข้ หรือแม้แต่ละเลยการดูแลตัวเองจนทำให้จมูกติดเชื้อขึ้นมา อาจทำให้เสียเวลามานั่งรักษาภาวะติดเชื้อเพื่อรอแก้จมูกอีกนานเลยล่ะครับ
แล้วต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้แก้จมูกบ่อยๆ
1. ทำการบ้านเกี่ยวกับการเสริมจมูกมาก่อนด้วยตัวเอง
ในปัจจุบันใคร ๆ ก็สามารถหาข้อมูลการเสริมจมูกได้ด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์มากมาย หากคุณหาข้อมูลมาสักพักแล้วรู้สึกสนใจอยากทำจมูกขึ้นมา หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอนและผลลัพธ์จากการเสริมจมูก แนะนำให้สอบถามข้อมูลกับผู้รู้ก่อน โดยอาจสอบถามจากคลินิกที่ให้บริการด้านนี้โดยเฉพาะหรือกลุ่มเฟซบุ๊กที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เรามีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องก่อนไปเสริมจมูกกับแพทย์ ทั้งนี้แนะนำให้มีทรงจมูกในใจไว้สัก 1 – 2 ทรงก่อน เพราะหากถึงเวลาเสริมจมูกจริง ๆ แล้ว แพทย์จะแนะนำทรงจมูกให้เราเลือกหรืออาจแนะนำทรงที่เข้ากับโครงสร้างใบหน้ามากที่สุดก็ได้เช่นกัน ซึ่งการเข้าใจในขั้นตอนการเสริมจมูกเบื้องต้น จะช่วยให้เรากำหนดเวลาและดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุดด้วย
2. เสริมจมูกกับคลินิกที่มีแพทย์ผู้ชำนาญ
แนะนำให้ท่องไว้เสมอว่าการเลือกคลินิกที่ดีไม่ควรเลือกเพราะราคาถูก จริงอยู่ว่าคลินิกราคาถูกสามารถเสริมจมูกให้เราได้เช่นกัน แต่ว่าวัสดุที่ใช้อาจไม่ได้มาตรฐาน ต้องเข้าใจก่อนนะครับว่าวัสดุที่ใช้สำหรับเสริมจมูกแต่ละชิ้นมีราคาสูง ยิ่งถ้าเป็นซิลิโคนนำเข้าด้วยแล้วยิ่งมีราคาสูงกว่าซิลิโคนไม่ได้มาตรฐานหลายเท่าตัว ถ้าจะเสริมจมูกทั้งทีก็ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีชื่อเสียงเป็นเวลานาน สามารถตรวจสอบข้อมูลของคลินิกและแพทย์ได้ และมีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยในการเสริมจมูกของคุณเอง และที่สำคัญหากเสริมจมูกกับคลินิกที่ราคาถูกแต่ไม่ได้มาตรฐาน เกิดมีปัญหาขึ้นมา อาจเสียทั้งเงินทั้งเวลามานั่งแก้ แถมยังเสี่ยงต่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เองอีกด้วย
3. ไม่แก้จมูกตามเทรนด์แฟชั่น
หากคุณไม่มีปัญหาจนถึงขั้นต้องเสริมจมูก แต่ต้องการเสริมจมูกตามแฟชั่น จริง ๆ แล้วก็สามารถทำได้เพื่อเพิ่มความมั่นใจในตัวคุณเอง เพียงแต่ควรตัดสินใจให้ดี เพราะการเสริมจมูกเป็นการเสริมความงามระยะยาว แถมยังมีขั้นตอนที่ยากพอสมควร หากคุณเบื่อทรงจมูกเดิม ๆ และต้องการแก้ใหม่ก็ควรรู้ไว้ก่อนเลยว่า ยิ่งแก้จมูกบ่อย จมูกยิ่งพังง่าย เนื่องจากจะต้องมานั่งถอดซิลิโคนเก่าออกและต้องเหลาซิลิโคนใหม่เพื่อใส่เข้าไปให้สมดุลกับโครงสร้างใบหน้าของคนไข้ แถมยังต้องเสียเวลามารอพักฟื้นและเสี่ยงต่อการแก้แล้วไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม 100% อีกด้วย
บทความที่น่าสนใจ
- จมูกสั้นรักษาดีมั้ย แก้เป็นทรงจมูกแบบไหนดี
- เสริมจมูกชมพู่อย่างไร ให้เสริมออร่ายิ่งกว่าเดิม
- อย่าปล่อยให้จมูกพังจากการแก้จมูกโดยหมอที่ไม่ได้มาตรฐาน
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน