ถอดจมูกแล้วบุ๋ม มักสร้างความกังวลใจให้กับคนไข้อยู่ไม่ใช่น้อยครับสำหรับปัญหาจมูกบุ๋ม ซึ่งมักเกิดจากคนไข้ในเคสที่ถอดซิลิโคนออก โดยอาจมีเหตุผลจำเป็นต่างๆ ที่ต้องถอดออก ไม่ว่าจะเป็น จมูกอักเสบขั้นรุนแรง จมูกทะลุ หรือเลือกไซซ์ซิลิโคนผิดจนทำให้เกิดพังผืดขั้นรุนแรง เป็นต้น โดยรอยบุ๋มจะเกิดขึ้นหลังจากที่คนไข้ถอดซิลิโคนออกไปแล้ว ซิลิโคนจมูกที่ยืดเนื้อเราเมื่อเอาออกไปแล้วจะทำให้เกิดโพรงใน เนื้อจมูกร่างกายจะสร้างพังผืดมาเติมเต็มโพรงและดึงรั้งทำให้เกิดรอยบุ๋มที่จมูกนั่นเอง ดังนั้น เมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้ จึงทำให้คนไข้ไม่วายที่จะต้องมาแก้จมูกไปตามๆ กันครับ
ถอดจมูกแล้วบุ๋ม เกิดจากอะไร เกิดขึ้นตำแหน่งไหน และรักษาอย่างไรได้บ้าง?
โดยทั่วไปแล้วนอกจาก “รอยบุ๋ม” จะเป็นผลที่เกิดจากพังผืดแล้ว ก็ยังส่งผลให้รูปร่างของจมูกดูเบี้ยวและผิดรูปอีกด้วยครับ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนไข้จึงอยากมาแก้จมูกนั่นเองครับ โดยเจ้ารอยบุ๋มพวกนี้สามารถเกิดขึ้นได้หลายตำแหน่งด้วยกัน ไม่ใช่เพียงแต่ปลายจมูกเท่านั้น จึงทำให้เทคนิคการแก้ไขปัญหานี้มีหลายวิธี ซึ่งแบ่งออกตามตำแหน่งที่เกิดรอยบุ๋มนั่นเอง ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ตามที่กล่าวมานั้นมีอะไรบ้าง เรามาติดตามกันต่อครับ
จมูกบุ๋ม คือ…
“จมูกบุ๋ม” มักเกิดตามหลังจากการที่ถอดซิลิโคนออก จากผู้ที่เสริมจมูกมาก่อนแล้วไม่ได้เสริมซิลิโคนใหม่ หรือซิลิโคนเก่าที่เอาออกนั้นมีขนาดใหญ่ยืดเนื้อปลายจมูกค่อนข้างมากซึ่งจะมีลักษณะเป็นรอยบุ๋ม ดูเป็นแอ่งที่จมูก ตามบริเวณต่างๆ ของจมูกทำให้เกิดการเสียรูปทรงและบิดเบี้ยวได้
จมูกบุ๋ม เกิดจาก…
จมูกบุ๋มโดยทั่วไปแล้วมักเกิดตามหลังจากการที่คนไข้เสริมจมูกมาก่อน แล้วถอดซิลิโคนออก โดยที่ไม่ ได้เสริมซิลิโคนใหม่ รวมไปถึงซิลิโคนเก่าที่เอาออกนั้นมีขนาดใหญ่ยืดเนื้อปลายจมูกค่อนข้างมาก ทำให้เมื่อเอา ซิลิโคนออกแล้วเกิดช่องว่างภายในระหว่างผิวหนังกับภายในจมูกที่เคยมีซิลิโคนอยู่เดิม หลังจากการเอาซิลิโคนออกแล้วร่างกายจะสร้างพังผืดขึ้นมาเติมเต็มช่องว่างใต้ผิวและหดรั้งทำให้เกิดการบุ๋มนั่นเองครับ
จมูกบุ๋ม มีลักษณะใดบ้าง?
จากที่ได้กล่าวไปครับว่ารอยบุ๋มไม่ได้เกิดเพียงแค่ที่ปลายจมูกเท่านั้น และยังสามารถ ซึ่งสามารถจำแนกออกได้ ดังนี้ครับ
1.จมูกมีรอบบุ๋มที่ส่วนปลาย
เป็นตำแหน่งที่พบได้มากที่สุดครับ กับตำแหน่งปลายจมูก เนื่องจากมักจะเป็นตำแหน่งที่เกิดการทะลุของซิลิโคน ส่งผลให้คนไข้ต้องถอดซิลิโคนออกนั่นเอง โดยในกรณีนี้คนไข้ยังสามารถรักษาได้ด้วยตนเองอยู่ครับ ซึ่งเบื้องต้น สามารถทำการนวดได้อย่างเต็มที่ เพราะคนไข้นำซิลิโคนออกแล้วนั่นเองครับ
2.จมูกบุ๋มคล้ายแอ่งกระทะ
จมูกบุ๋มแบบนี้พังผืดที่หดรั้งจะมีมากกว่าแบบแรกเวลามองด้านข้าง อาจจะพบว่าปลายจมูกตัดปลายไม่พุ่งเหมือนก่อน ซึ่งการนวด จะช่วยให้จมูกกลับมามีรูปร่างดีขึ้นได้เพียงเล็กน้อยครับ ทางที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาจมูกบุ๋มลักษณะนี้คือ การผ่าตัดโดยอาจใช้กระดูกอ่อนเพื่อมาเติมเต็มส่วนที่ยุบหรือบุ๋มลงไปให้ดีขึ้น
3.จมูกบุ๋มรุนแรง
การบุ๋มแบบรุนแรงจะแสดงรอยออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนครับ ส่วนใหญ่คนไข้ที่เกิดการบุ๋มลักษณะนี้จะเป็นเคสที่คนไข้เกิดซิลิโคนทะลุมาก่อน เคยมีการอักเสบรุนแรงที่จมูกจนทำให้เนื้อปลายจมูกบริเวณหนึ่งบางกว่าอีกบริเวณนึงมาก ทำให้เวลาพังผืด หดรั้งแล้วเกิดขอบที่ชัดเจน การรักษาจึงจำเป็นต้องทำการนวดแบบพิเศษและทำการผ่าตัด เพื่อช่วยบรรเทาอาการบุ๋มรุนแรงดีขึ้นครับ ซึ่งวิธีการผ่าตัดก็จะสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายวิธีทีเดียวครับ
เทคนิคการผ่าตัดแก้จมูก แก้ปัญหาจมูกบุ๋ม
จากที่ได้กล่าวไปครับว่าวิธีการผ่าตัดแก้ไขปัญหาจมูกบุ๋มนั้นสามารถทำได้หลายเทคนิคทีเดียวครับ แต่จะมีหลักๆ อยู่ 3 วิธีด้วยกัน ดังนี้
กรณีไม่ตัดแต่งผิวหนังบริเวณปลายจมูกใหม่
อาจจะเน้นผ่าตัดพังผืดใต้แผล สำหรับคนไข้มีเนื้อปลาย จมูกน้อย หมอจะใช้กระดูกอ่อนหลังใบหู เนื้อเยื่อเทียมหรืออาจจะใช้ไขมัน ในการเสริมจมูกทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนไข้ร่วมกันกับหมอด้วยครับ
กรณีตัดแต่งผิวหนังบริเวณบุ๋มด้านนอกใหม่
ในกรณีที่บุ๋มเป็นขอบลึกมากๆ และผิวหนังบริเวณปลาย จมูกมีเนื้อพอประมาณ อาจทำการเสริมจมูกไปด้วยพร้อมกันในครั้งเดียวเลย หรืออาจจะนัดเสริมจมูกภายหลัง จากแผลตัดแต่งผิวหนังดีขึ้นแล้ว โดยวัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกควรเป็นไขมันของคนไข้เองในกรณีที่เสริมใน ครั้งเดียวกัน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หากเป็นการนัดเสริมจมูกภายหลังอาจใช้เป็นการเสริมด้วยซิลิ โคนหรือไขมันตัวเองหรือใช้กระดูกอ่อนหลังหูช่วยก็ได้ครับ
กรณีที่บุ๋มจากการที่จมูกทะลุมาก่อน หรือเนื้อน้อยมากๆ
ไม่ว่าจะเป็นบริเวณสันจมูกหรือปลายจมูกอาจ จะพิจารณาใช้ เนื้อเยื่อของคนไข้ในการใช้เสริมจมูกเป็นหลัก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และลดความ เสี่ยงต่อการทะลุจากวัสดุอื่นๆ ครับ
แนวทางแก้ไขปัญหา “จมูกบุ๋ม” ด้วยวิธีต่างๆ
1.แก้ไขด้วยซิลิโคน
การแก้ไขด้วยวิธีนี้เป็นการเสริมด้วยซิลิโคนธรรมดา ซึ่งสามารถใช้กับคนไข้ที่มีอาการบุ๋มแบบไม่รุนแรงมาก หรือเพียงในระดับ 1-2 เท่านั้นครับ ไม่เหมาะกับคนไข้ที่บุ๋มรุนแรง
2.แก้ไขด้วยการฉีดไขมันของคนไข้เอง
จากที่กล่าวไปครับว่า โดยส่วนใหญ่แล้วซิลิโคนอาจทำให้ทรงจมูกเสี่ยง ปลายบุ๋มได้ เพราะซิลิโคนจมูกที่ยืดเนื้อเราเมื่อเอาออกไปแล้วจะทำให้เกิดโพรงใน เนื้อจมูกร่างกายจะสร้างพังผืดมาเติมเต็มโพรงและดึงรั้งทำให้เกิดรอยบุ๋มที่จมูก ศัลยแพทย์ส่วนใหญ่จึงใช้เทคนิคในการใสเนื้อเยื่อหรือไขมันจากร่างกายเราเข้าไปเพื่อเติมเต็มไม่ให้เกิดโพรงนั้นขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดพังผืดขึ้นอีกครับ
3.แก้ไขด้วยการเสริมด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหู
สำหรับแนวทางการแก้ไขเช่นนี้ เหมาะกับคนไข้ที่เกิดอาการบุ๋มแอ่งกระทะ ตัวกระดูกอ่อนหลังใบหูสามารถยืดเนื้อปลายจมูกได้ในระดับนึงและโค้งรับช่วยดันบริเวณที่บุ๋มได้ดีครับ
อย่างไรก็ดี ทั้งเทคนิคและแนวทางการรักษาดังกล่าว เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรักษาที่ศัลยแพทย์มักนิยมใช้เท่านั้นครับ ซึ่งคนไข้แต่ละท่านแม้จะมีอาการบุ๋มที่เหมือนกัน แต่ลักษณะของจมูกและระดับความรุนแรงก็จะมีลักษณะ
อ่านเพิ่มเติม: เสริมจมูกเทคนิคโอเพ่น 16 ปัญหาจมูกที่แก้ไขได้ด้วยโอเพ่น