“ของแสลงหลังผ่าตัด” เป็นความเชื่อตั้งแต่โบร่ำโบราณครับ เกี่ยวกับของแสลงต่างๆ ที่ว่าถ้าไม่อยากให้แผลหลังการผ่าตัดหายช้า หรือปูดนูนขึ้นมา ก็ห้ามไปกินอาหารเหล่านี้โดยเด็ดขาด หากแต่ความเชื่อนี้มีอยู่จริงหรือเป็นเพียงเรื่องที่สับสนกันไป เพราะข้อเท็จจริงทางการแพทย์กลับพบว่า บางเรื่องก็ขัดแย้งกับความเป็นจริง เพราะอาหารบางอย่างที่ถูกห้ามกลับมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการฟื้นตัวของร่างกาย และบาดแผลด้วยซ้ำไป ในบทความนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับของแสลงเหล่านี้กันครับ
“ของแสลงหลังผ่าตัด” ถ้าไม่อยากแผลปูดนูน หรือ หายช้า ห้ามกินเมนูไหนบ้าง?
ไม่ว่าจะเป็นการดูแลทำความสะอาดแผล ประคบอุ่นเย็น การพักผ่อนให้เพียงพอ ในส่วนของอาหารก็มีความสำคัญเช่นกัน โดยเราควรทานอาหารให้ครบเพื่อให้ได้สารอาหารไปเลี้ยงร่างกายและช่วยสมานแผล แต่ก็มีอาหารบางชนิดที่ควรหลีกเลี่ยงอยู่ด้วยครับ
5 ของแสลง กับ ความเชื่อว่า “ห้ามกิน” หลังผ่าตัด
1. ห้ามกิน ไข่ จริงหรือ?
ถือเป็นความเชื่อที่ผิดอย่างยิ่ง เพราะไข่เป็นแหล่งของโปรตีนชั้นดีที่หาง่าย และอยู่ใกล้ตัวไข่มีโปรตีนที่จะช่วยซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอหลังการผ่าตัด โปรตีนเหล่านี้จำเป็นต่อการสร้างเนื้อเยื่อ และผิวหนังใหม่ที่ช่วยให้แผลหาย แต่การเกิดแผลเป็นเกิดจากความไม่สมดุลกันของร่างกายที่สร้างคอลลาเจนออกมาในปริมาณมากเกินไป จึงทำให้เกิดแผลเป็น และนูนได้ ความจริงเกี่ยวกับเรื่องแผลเป็นนั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะที่ถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม ไม่ใช่เพราะไข่แต่อย่างใด
2. ห้ามกิน อาหารทะเล จริงหรือ?
ความจริงเราสามารถรับประทานอาหารทะเลหลังผ่าตัดได้เช่นกัน เพราะไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ หรือการแพทย์ใดๆ ที่เชื่อมโยงผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากการกินอาหารทะเลหลังผ่าตัดได้เลย
3. ห้ามกิน หน่อไม้ ทั้งแบบดองและสด จริงหรือ?
ความจริงแล้ว สามารถรับประทานได้ แต่ต้องให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป และมีกระบวนการผลิตที่สะอาด ปลอดภัย และเชื่อถือได้เท่านั้น
4. ห้ามกิน ไก่ – หมู และเนื้อสัตว์ จริงหรือ?
ความจริงแล้ว เป็นเหตุผลลักษณะเดียวกันกับไข่ ที่ว่าในเนื้อสัตว์นั้นมีโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย ในกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และสร้างเนื้อเยื่อจึงไม่ควรงดกินเนื้อสัตว์ในช่วงหลังผ่าตัด แต่ควรคำนึงถึงเรื่องความสะอาด และการปรุงให้สุกเป็นสำคัญครับ
5. ห้ามกิน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จริงหรือ?
คำเตือนนี้เป็นเรื่องจริงครับ คนไข้ควรงดประมาณ 1 เดือน เนื่องจากทำให้แผลหายช้าและอาจอักเสบได้ และหากเมาก็กลับดึกร่างกายไม่ได้พักผ่อน ซึ่งส่งผลแผลสมานช้า
บทสรุปเกี่ยวกับ “ของแสลง”
สำหรับบทสรุปเกี่ยวกับอาหารแสลงที่เรามักได้ยินและเชื่อกันแบบผิดๆ ว่าทานได้หรือไม่ได้นั้นนะครับ มีผลว่าหลังจากการผ่าตัดแล้ว คนไข้สามารถทานอาหารได้ทุกอย่าง แต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์ไม่ควรทาน เพราะแท้จริงแล้วคนไข้ผ่าตัดศัลยกรรมไม่จำเป็นต้องเลิกกินอาหารบางอย่าง ที่สำคัญต้องกินอาหารประเภทโปรตีนเยอะๆ เพื่อซ่อมแซมทำให้แผลหายเร็วนั่นเองและสิ่งที่ควรระวังคือไม่ให้แผลติดเชื้อ ไม่ให้แผลโดนน้ำเพื่อเลี่ยงการอักเสบและหายช้าครับ
ทำไมต้องเลือกเสริมคางกับหมอกัน
ในการทำศัลกรรมคางนั้น สิ่งที่หมอจะทำเป็นอันดับแรกเสมอคือ การประเมินโดยการพิจารณาโครงหน้าของคนไข้ครับส่วนไม่ว่าจะเป็น หน้าผาก จมูก และกราม เพื่อที่จะหารูปทรงของคางให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม เข้ากับรูปหน้า และความต้องการของคนไข้แต่ละท่านด้วย ทั้งนี้ ทางคลินิคของเรายังมีวิธีเสริมคางหลากหลายรูปแบบให้คนไข้ได้เลือกไม่ว่าจะเป็นทั้งการ ฉีดฟิลเลอร์ และ เสริมซิลิโคน ที่มีมาตรฐานและไม่ส่งผลอันตรายกับคนไข้อย่างแน่นอนครับ
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
Q&A 7 คำถามยอดฮิตที่คนอยาก “ทำคาง” ต้องรู้
มาดูกัน! ฉีดคาง-เสริมคาง ต่างกันอย่างไร?
มาดูกัน! อาการหลังเสริมคาง ที่ควรระวังมีอะไรบ้าง?