ทําตาสองชั้น แผลเป็นนูน ค่อนข้างเป็นสิ่งที่คนไข้หลาย ๆ คนกังวลเป็นอย่างมากกับอาการข้างเคียงหลังการศัลยกรรมในจุดต่าง ๆ โดยเฉพาะการศัลยกรรมบนใบหน้าที่ถ้าหากเกิดอาการข้างเคียงขึ้นมา ก็ยิ่งสร้างความวิตกกังวลให้คนไข้อยู่ไม่น้อย อย่างไรก็ดีครับ อาการข้างเคียงมีมากมาย โดยเฉพาะเรื่อง “แผล” ที่เกิดขึ้นได้เสมอ และถ้าหากเกิดในคนไข้ศัลยกรรมดวงตาแล้วล่ะก็ จะเกิดแผลอะไรขึ้นได้บ้าง
ทําตาสองชั้น แผลเป็นนูน คืออะไร เกิดจากอะไรกันแน่ รักษาได้ไหม?
แผลเป็นที่หลายคนกังวลใจ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเป็นแผลเป็นถาวร แต่จะเป็นเพียงการสมานแผลและขั้นตอนของการฟื้นตัวของแผล อาจมีตุ่มนูนเล็ก ๆ ตามรอยเย็บของ แผลผ่าตัด ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวล เพราะแผลเหล่านี้จะสมานตัวและหายกลายเป็นร่องตาสองชั้นที่สวยงามหลังจากแผลนั้นหายดีแล้ว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ และอาจมีรอยแดงจากการสมานแผลที่อาจเกิดขึ้นจากการที่สมานแผลมากเกินไป ซึ่งสามารถแก้ไขได้หากเกิดการสมานแผลมากเกินความจำเป็น
แต่อย่างไรก็ดีครับ แผลที่มาจากการศัลยกรรมดวงตานั้นมีได้หลายชนิดมาก ๆ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกันว่าแผลที่สามารถเกิดขึ้นจากการผ่าตัดศัลยกรรมดวงตามีแผลอะไรได้บ้าง และแผลนูนที่ว่าคือแผลอะไรกันแน่ มาหาคำตอบกันครับ
อาการและผลข้างเคียงหลังการทำตาสองชั้น
เป็นเรื่องที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า หลังการผ่าตัดมักมีโอกาสที่จะมีผลข้างเคียง เนื่องจากการศัลยกรรมนั้นจะทำให้เกิดแผล ซึ่งหากทำโดยแพทย์ที่ชำนาญ อาจจะมีผลตามมา แต่ทั้งนี้จะมีมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของแผลและการเย็บแผล ซึ่งอาการต่าง ๆ ที่อาจพบได้มีดังนี้
- การบวมมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับฝีมือและเทคนิคของแพทย์ ซึ่งการบวมนี้สามารถพบได้ทุกราย จากนั้นจะลดลงตามการดูแลหลังผ่าตัดของเรา
- รอยช้ำรอบดวงตา สามารถพบได้หลังผ่าตัด
- ภาวะตาแห้งและเลือดคลั่งในตา กรณีนี้ควรพบแพทย์หากมีอาการปวดร่วมด้วย
- แผลแยกหรือแผลไม่ปิดสนิท แผลนูนคีลอยด์
- แผลเกิดการติดเชื้อ
- แผลเป็นตามการอักเสบ และ หลังจากแผลเริ่มปิดสนิทแล้ว
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คือแผลที่คนไข้สามารถพบเจอได้จากการทำศัลยกรรมตาครับ ซึ่งเมื่อจะเกิดขึ้นได้นั้น ต้องอาศัยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ตั้งแต่ฝีมือแพทย์ไปจนกระทั่งการดูแลตนเองหลังการผ่าตัดของคนไข้เองด้วย ดังนั้น แผลที่เกิดขึ้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไปครับ
อ่านเพิ่มเติม : ทำตาสองชั้นเทคนิคเกาหลี คลินิกทำตาสองชั้น จบทุกปัญหาเรื่องชั้นตา
เกี่ยวกับ “แผลนูนคีลอยด์”
จากแผลต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมา แผลที่คนไข้มักจะกังวลมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นแผลนูน หรือ แผลคีลอยด์เจ้าประจำ ที่ไม่ว่าจะศัลยกรรมที่จุดไหน ก็มักจะมีตามมาเสมอ ซึ่งหากแผลคีลอยด์เกิดขึ้น ณ จุดที่เห็นได้ชัด โดยเฉพาะที่ดวงตาเช่นนี้คนไข้ก็จำเป็นที่จะต้องรู้วิธีป้องกันและรักษาเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายและปัญหาอื่น ๆ ตามมาภายหลังครับ
คีลอยด์ คืออะไร ?
คีลอยด์ จัดอยู่ในประเภทของรอยแผลเป็นชนิดหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเป็นแผลนูนมีการขยายใหญ่ออกนอกขอบเขตบาดแผลเดิม แผลจะมีสีที่แตกต่างกันออกไป เช่น สีแดง สีคล้ำ สีช้ำ บริเวณแผลเป็นส่วนใหญ่จะมีอาการคัน บางคนมีอาการเจ็บ รู้สึกผิวตึงรั้งร่วมด้วย แม้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ แต่ก็ส่งผลด้านความสวยงามและสภาพจิตใจได้
สาเหตุการเกิดแผลคีลอยด์
โดยทั่วไปผิวหนังมีกระบวนการซ่อมแซมบาดแผลตามธรรมชาติ 3 ระยะด้วยกัน ซึ่งสาเหตุของการเกิดแผลคีลอยด์ มาจากความผิดปกติของกระบวนการรักษาแผล คือมีการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนที่มากเกินไป จนเกิดความไม่สมดุลของคอลลาเจนและเกิดเป็นแผลนูนในที่สุด
แผลคีลอยด์ อันตรายไหม ?
เนื่องจากแผลคีลอยด์เกิดจากความผิดปกติของกระบวนการรักษาแผลตามธรรมชาติของร่างกาย คือมีการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนบางชนิดมากเกินไป โดยไม่พบเซลล์ที่มีรูปร่างผิดปกติอื่น ๆ ดังนั้น แม้จะปล่อยให้ก้อนแผลมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะไม่พบการเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ที่ไม่ดีหรือมะเร็งแต่อย่างใด ปัญหาหลักจึงยังคงเป็นเรื่องรูปลักษณ์ที่เกิดขึ้นทำให้แลดูไม่สวยงาม จนทำให้ขาดความมั่นใจในการเผยผิว
แผลคีลอยด์ จากการศัลยกรรมตา รักษาอย่างไรได้บ้าง?
แม้จะดูเป็นแผลที่มีความซับซ้อน รักษายาก แต่แท้จริงแล้วสามารถรักษาได้หลากหลายวิธีเลยครับ เช่น
เจลซิลิโคนลดแผลเป็น
วิธีนี้ไม่เจ็บตัว แต่ต้องใช้ระยะเวลานานในการรักษา ฉะนั้นต้องใจเย็นครับ โดยจะใช้แผ่นเจลซิลิโคนแปะลงบนแผลเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้แผลนูนขึ้นมาได้ แต่อาจจะไม่ค่อยเหมาะหากนำมารักษาแผลเป็นบริเวณเปลือกตา เพราะแผ่นเจลมักจะเลื่อนหลุดได้ง่ายนั่นเอง
ทำเลเซอร์
การทำเลเซอร์เพื่อรักษาแผลเป็นจะใช้เลเซอร์ชนิดอ่อนโยน จึงไม่เป็นอันตรายต่อผิว ช่วยให้แผลเป็นเรียบเนียนขึ้น แต่วิธีนี้อาจจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และต้องทำซ้ำหลายครั้งถึงจะเห็นผลชัดเจนครับ
ฉีดยาลดแผลเป็น
เป็นการฉีดยาที่แผลเป็นนูนโดยตรง ค่อนข้างปลอดภัยและเจ็บตัวน้อย เริ่มฉีดได้ช่วง 2-3 เดือนหลังทำ อาจต้องฉีดซ้ำหากยุบไม่หมด ยาอาจมีผลข้างเคียง ทำให้รู้สึกเจ็บแผล หรือแผลมีสีซีดลงได้
ผ่าตัด
เนื่องจากเป็นการผ่าตัดจึงแนะนำให้ทำร่วมกับการทำตาสองชั้นใหม่ อาจแก้ปรับชั้นตาให้ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลง คุณหมอจะตัดแผลที่เป็นคีลอยด์ออก และเย็บแผลใหม่ แต่วิธีนี้อาจทำให้เกิดแผลเป็นนูนใหม่ได้ จึงจำเป็นต้องทำร่วมกับวิธีอื่น ๆ เช่น เลเชอร์ หรือแปะเจล ร่วมด้วยครับ

ท้ายที่สุด การรักษาแผลเป็นคีลอยด์ คนไข้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีผลข้างเคียงในระบบอื่นของร่างกาย หลังจากการรักษาแผลคีลอยด์โดยแพทย์ผู้ชำนาญ บริเวณที่เป็นแผลคีลอยด์จะยุบลงกลับมาใกล้เคียงเดิม การดูแลรักษาแผลคีลอยด์หลังการรักษาจากแพทย์ผู้ชำนาญเป็นอย่างดีจะช่วยลดโอกาสในการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ซ้ำได้ ทั้งนี้ผลลัพธ์ของการรักษานั้นจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับวิธีการรักษา แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทางผิวหนัง เพื่อวินิจฉัยและให้การรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทำตาสองชั้น กรีดแบบไหนดี กรีดสั้น กรีดยาว ต่างกันยังไง