รอยช้ำ ฉีด filler ปาก เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มอื่นๆ เพื่อปรับรูปทรงหรือปัญหาริ้วรอยต่างๆ ที่จะมีผลข้างเคียงตามมา หากแต่ผลข้างเคียงดังกล่าวนั้นมีทั้งแบบปกติและแบบผิดปกติที่เกิดขึ้นได้กับเฉพาะบางคนเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น อาการบวม ตึง เจ็บบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย ถือเป็นเรื่องปกติที่คนฉีดฟิลเลอร์จะต้องเจอ แต่ผลข้างเคียงเช่น ฉีดฟิลเลอร์ที่ปากแล้วเป็นก้อน อาการช้ำที่ใช้เวลานานกว่า 1 สัปดาห์ ปากบวมข้างเดียว เป็นต้น อาการเหล่านี้ถือเป็นผลข้างเคียงที่ไม่ควรวางใจ และต้องรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็กอาการให้ละเอียด
รอยช้ำ ฉีด filler ปาก อันตรายหรือไม่ หากช้ำมากต้องทำอย่างไร?
จากที่ได้กล่าวไปว่า อาการบวม ตึง ปวด ช้ำ เป็นผลข้างเคียงปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งสามารถหายได้เองเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาไม่เกินประมาณ 1 สัปดาห์ในการรอให้ผลข้างเคียงต่างๆ หายดี และฟิลเลอร์อยู่ตัว ซึ่งในบางเคสนั้น อาการข้างเคียงกลับไม่หายไป อีกทั้งยังใช้เวลานานกว่าปกติจนน่าสงสัย อีกทั้งยังเป็นรอยช้ำที่มีสีแดง และ ดำ อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก็ทำให้คนไข้เสียความมั่นใจได้เลยทีเดียว
ฟิลเลอร์ปาก คือ…
การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นการใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ “HA” เพื่อช่วยเติมเต็มหรือเสริมให้ริมฝีปากกลับมาดูอวบอิ่ม เต่งตึง ชุ่มชื้นขึ้น ทำให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งถ้าใช้ฟิลเลอร์แท้ที่เป็น HA นั้น จะสามารถสลายเองได้หมด 100% เมื่อเวลาผ่านไป ไม่เป็นอันตราย ไม่มีสารตกค้าง
อาการช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันหาย?
ฉีดฟิลเลอร์ บวม-ช้ำ กี่วัน? หลายคนกังวลเรื่องนี้ โดยเฉพาะคนที่ฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา ถึงแม้ว่าจะเห็นจุดที่แก้ไขแล้วเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน แต่ถ้าฉีดไม่ดีก็สังเกตได้ชัดเช่นกันครับ แต่จริงๆ แล้วการฉีดฟิลเลอร์คือการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในผิว อาจมีอาการบวมเล็กน้อยหลังฉีด เป็นเรื่องปกติครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ ประมาณ 4-5 วัน อาการบวมจะยุบลง และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเข้าที่ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ครับ อาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดผื่นหรือจุดแดงบริเวณรอยเข็มได้ ซึ่งจะค่อยๆหายไปเอง นอกจากนี้ หากมีอาการปวด คนไข้สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามอาการ
อาการช้ำแบบใดที่ต้องรีบมาพบแพทย์?
สำหรับการบวมช้ำแบบผิดปกตินั้นเกิดขึ้นได้น้อยมาก ๆ ครับ เพราะ หากมีการบวมแบบผิดปกติเกิน 2 สัปดาห์ อาจจะหมายถึงการติดเชื้อ การอักเสบ หรือ การแพ้ฟิลเลอร์ ซึ่งหากคนไข้มีอาการดังกล่าว ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันทีครับ โดยการรักษามีหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการทานยาฆ่าเชื้อ การฉีดสลายออก (ในกรณีทีเป็นฟิลเลอร์แท้) ด้วยสารไฮยาลูโรนิเดสครับ โดยหากเป็นฟิลเลอร์ปลอม มีอาการดังกล่าวเกิดขึ้น ต้องรักษาโดยการขูดฟิลเลอร์ หรือ ศัลยกรรมผ่าตัดนำฟิลเลอร์ออก ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความนิ่ม ความแข็งของฟิลเลอร์ปลอม ระยะเวลาที่ฉีดมา อาจจะไม่สามารถเอาออกหมดได้ในครั้งเดียว ทางที่ดีแนะนำว่าให้ฉีดฟิลเลอร์แท้เท่านั้นครับ
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
หากต้องการปรับรูปทรงปากให้ดูอวบอิ่ม ปากกระจับ โดยไม่ต้องผ่าตัด การฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยได้ครับ นอกจากได้ทรงปากที่ได้สัดส่วนแล้ว ยังช่วยทำให้ปากชุ่มชื้นขึ้นได้ โดยมีวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ดังนี้
ข้อปฏิบัติ
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ และช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู อยู่ได้นานขึ้น
- ควรรับประทานและเครื่องดื่มอุณหภูมิปกติ เลี่ยงของร้อน ๆ เพราะอาจทำให้ปากเกิดอาการบวม
- ใน 12 ชั่วโมงแรกควรงดใช้หลอดดูดน้ำ งดทาลิปสติกและงดสูบบุหรี่
ข้อควรระวัง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด ไม่จับ บีบ นวดบริเวณริมฝีปาก
- ไม่ควรดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะจะเป็นการทำลายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลง
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เผ็ด เพราะอาจทำให้ปากเกิดอาการอักเสบได้ง่าย
ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์กับหมอกัน
- หมอกันมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมและด้านปรับรูปหน้ามากกว่า 15 ปี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึกต่างๆ หรือแม้แต่การใช้ฟิลเลอร์ในการแก้ไขปรับแต่งรูปหน้า
- ใช้เทคนิคซึ่งเป็นเทคนิคPyramidal Technic ผสาน Microdrop เป็นเทคนิคเดียวกันกับที่ฉีดไขมันเติมเต็มใบหน้า ไม่เป็นก้อน ไม่เป็นคลื่น ให้เรียบเนียนไปกับผิว
- ทางคลินิกใช้ฟิลเลอร์ของแท้ สามารถตรวจสอบได้ และแต่ละรุ่นที่คลินิกใช้เป็นยี่ห้อที่ดีที่สุด โดยตำแหน่งในการฉีดฟิลเอร์จำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่แตกต่างกันไป
- หมอกันสามารถใช้ฟิลเลอร์ได้ทุกตำแหน่งบริเวณบนใบหน้าอย่างถูกต้อง และปลอดภัย
- หมอกันเน้นปรับรูปหน้าให้สวยและดีขึ้นในฉบับของตัวเอง พร้อมทั้งถูกต้องตามหลักโหงวเฮ้งที่ได้ศึกษามา
- หมอกันอัปเดตความรู้การใช้ฟิลเลอร์ และเทคนิคใหม่ที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
- หมอกันให้คำปรึกษา ใส่ใจคนไข้ทุกเคสแบบจริงใจ และติดตามอาการคนไข้อย่างต่อเนื่อง
- เป็นคลินิกยอดนิยมของเหล่าดารา เน็ตไอดอล และเซเลบมากมายที่ไว้ใจให้YKJ Medical Center ดูแล
อย่างไรก็ดี รอยช้ำ ฉีด filler ปาก เป็นเพียงผลข้างเคียงที่การดูแลตัวเองหลังการทำหัตถการมีความสำคัญ เพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกเลยว่า หลังทำผลลัพธ์จะดีหรือไม่ นอกจากฝีมือของแพทย์แล้ว ยังต้องอาศัยความร่วมมือจากคนไข้ด้วยนั่นเอง ฟิลเลอร์ถือเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น อีกทั้งยังดูแลตัวเองได้ง่ายมาก ๆ ผมหวังว่าคำแนะนำเบื้องต้นจากบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคนไข้ทุกท่านไม่มากก็น้อยนะครับ
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน