จมูกโด่งแต่ไม่มีดั้ง ทำไงดี จมูกเป็นแบบนี้ ควรเสริมหรือเปล่า?

จมูกโด่งแต่ไม่มีดั้ง ทำไงดี จมูกเป็นแบบนี้ ควรเสริมหรือเปล่า?

จมูกโด่งแต่ไม่มีดั้ง เป็นปัญหาที่มีอยู่จริงในคนไข้หลายๆ เคสครับ เพราะเราอาจเคยได้ยินหรือพบเจอแค่ปัญหาจมูกแบน ดั้งแบน มามาก จึงไม่คิดว่าจะมีคนที่มีปัญหาจมูกโด่งแต่ดั้งไม่มีอยู่ด้วย คำว่าจมูกโด่งแต่ดั้งไม่มีนั้น เป็นปัญหาของผู้ที่มีปลายจมูกที่โด่ง พุ่ง ดูสวยอยู่แล้ว แต่ดั้งดันไม่สูงพุ่งตามมา  ซึ่งก็ทำให้ผู้ที่พบกับปัญหานี้สูญเสียความมั่นใจได้มากทีเดียว ดังนั้น ถ้าหากอยากแก้ไขปัญหานี้ต้องทำอย่างไร มีวิธีไหนบ้าง เราจะมาหาคำตอบไปพร้อมกันครับ

เสริมจมูกโอเพ่น, เสริมจมูก Open, ดารานางแบบ

จมูกโด่งแต่ไม่มีดั้ง แก้ยังไง อยากมีจมูกสวย ดั้งพุ่ง ทำวิธีไหนได้บ้าง?

เป็นที่ทราบกันดีครับว่า จมูกของคนเรานั้นมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งบางคนก็สวยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ในบางคนก็ยังพบกับปัญหาได้ต่างๆ นา ซึ่งหนึ่งในปัญหาสามัญที่ต้องเจอแน่ๆ คือการไม่มีดั้ง และแม้จะมีปลายที่แหลม ดูพุ่งสวย อยู่แล้ว แต่ดันไม่มีดั้งก็จะทำให้จมูกดูขาดมิติ ไม่สมดุลกับองค์ประกอบอื่นๆ ของใบหน้าได้ด้วยนั่นเอง จึงไม่เป็นเรื่องแปลกครับที่คนไข้ในปัญหานี้จะต้องการเสริมความมั่นใจให้กับตนเอง

การเสริมดั้ง คือ…

การเสริมดั้ง คือ หัตถการการเสริมจมูกอย่างหนึ่งที่มักจะใช้การเสริมโดยใช้วัสดุเทียมต่างๆ เพื่อปรับรูปทรงหรือขนาด โดยการเสริมดั้งนั้นต้องเข้ารับการผ่าตัดจากแพทย์ผู้ชำนาญเท่านั้น เนื่องจากจมูกของคนไข้แต่ละคนมีปัญหาไม่เหมือนกัน เช่น ในการเสริมดั้งนั้นต้องพิจารณาจึงเนื้อจมูกของคนไข้ด้วย ว่ามีมาก มีน้อยเพียงใด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่คนไข้ต้องได้รับการพิจารณาและประเมินโดยแพทย์ที่ชำนาญและมีประสบการณ์ เนื่องจากการเสริมดั้งด้วยวัสดุเทียมต้องใช้การผ่าตัดแบบเฉพาะของคนไข้แต่ละคน ดังนั้น การวางแผนของแพทย์จึงสำคัญมากๆ ครับ

โครงสร้างจมูก, ทำจมูก

จมูกเนื้อมาก จมูกเนื้อน้อย สำคัญกับการเสริมดั้งยังไง?

คนไข้หลายๆ คนอาจคิดว่าการเสริมดั้งด้วยวัสดุต่างๆ นั้น สามารถเลือกได้ตามใจชอบ แต่แท้จริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้นครับ เนื่องจากเราต้องทำการพิจารณาก่อนว่าจมูกของคนไข้นั้นมีเนื้อตรงบริเวณสันจมูกมากหรือน้อยเพียงใด เพราะวัสดุบางชนิดก็ไม่เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อน้อย และบางชนิดก็ไม่เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อจมูกเยอะ คนไข้จึงจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการประเมินจากแพทย์เพื่อรับทราบถึงปัญหาเสียก่อน

จมูกเนื้อมาก คือ

ผู้ที่มีเนื้อจมูกมาก หมายถึง ผู้ที่สามารถดึงเนื้อจมูกจากสันจมูกได้เยอะนั่นเองครับ เนื้อจะมีความยืดหยุ่นมากกว่าผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย ทั้งนี้ผู้ที่มีเนื้อจมูกมากจะสามารถเสริมดั้งด้วยซิลิโคนได้ง่ายกว่า เนื่องจากมีฐานเดิมอยู่แล้ว การเสริมด้วยซิลิโคนจะเป็นการเสริมที่ไม่ฝืนเนื้อจมูกของคนไข้ครับ

จมูกเนื้อน้อย คือ

ผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย หมายถึง ผู้ที่สามารถดึงเนื้อจมูกจากสันจมูกได้น้อยมาก หรือ แทบไม่ได้เลย ซึ่งหากคนไข้ที่มีปัญหานี้ต้องการเสริมดั้งโดยการใส่ซิลิโคน คุณหมอจะไม่สามารถใส่ให้ได้สูงมากนัก เนื่องจากฐานจมูกมีความแบนและเนื้อตรงสันจมูกก็น้อย ซึ่งหากใส่ซิลิโคนที่ไม่พอดี ก็เสี่ยงซิลิโคนทะลุได้ครับ

วัสดุที่ใช้ในการเสริมดั้ง

ในการเสริมจมูกนั้น สามารถทำได้หลายวิธีครับ แต่วัสดุที่ใช้นำไปเสริมแทนส่วนใหญ่จะสามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบหลักๆ เท่านั้น คือ

1.ซิลิโคน

ซิลิโคนแท่งที่ใช้ในการเสริมจมูก ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ซิลิโคนสำเร็จรูป กับซิลิโคนชนิดเหลาเอง ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้

  • ซิลิโคนสำเร็จรูป

คือ ซิลิโคนที่ถูกขึ้นรูปเป็นรูปร่างสำเร็จที่พร้อมจะใส่ ผลิตมาจากโรงงาน มีขนาดความกว้างและยาวที่แตกต่างกัน ก่อนทำการเสริมจมูกให้คนไข้ด้วยซิลิโคนสำเร็จรูปคุณหมออาจปรับแต่งรูปทรงของซิลิโคนอีกเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับโครงจมูก ของคนไข้แต่ละราย ซึ่งมีข้อดีคือ ได้รูปทรงที่แน่นอน โอกาสเอียงมีน้อยมาก และเนื้อซิลิโคนที่มีให้เลือก ความแข็ง-นิ่มได้หลายเกรด

  • ซิลิโคนที่เหลาเอง

คือ ซิลิโคนที่เป็นแผ่นใหญ่ ๆ แล้วนำมาเหลาเองให้เหมาะกับรูปจมูกของคนไข้ มีข้อดีก็คือ สามารถเหลาปรับรูปทรงให้เหมาะสม กับโครงจมูกคนไข้แต่ละรายได้ สามารถควบคุมรูปร่างทรงจมูกได้ดี ด้วยการเหลาตกแต่ง ไม่ว่าจะต้องการโด่งมากน้อยแค่ไหน บริเวณปลายจมูกจะให้เป็นอย่างไร เช่น การทำปลายจมูกทรงหยดน้ำ

กระดูกหลังหู, ปลายไร้ซิลิโคน, เสริมจมูก

2.เนื้อเยื่อตัวเอง / เนื้อเยื่อเทียม

ในการศัลยกรรมโดยใช้เนื้อเยื่อตนเอง หรือกระดูกตนเอง นั้น มีข้อดีอย่างหนึ่งครับ คือ คนไข้สามารถมั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีอาการแพ้ เนื่องจากวัสดุที่มาจากร่างกายเจ้าของเองจะสามารถเข้ากันได้ดีกว่า เพราะในคนไข้บางเคสที่เสริมซิลิโคนนั้น ก็มีบางรายที่เกิดอาการแพ้ซิลิโคนจนต้องมาถอดออก การที่ใช้อวัยวะบางอย่างในร่างกายเรามาแทน ก็ถือว่าเป็นการลดปัญหาหลังผ่าตัดลงได้ครับ ซึ่งก็นิยมนำไปเสริมในหลายๆ จุด เช่น จมูก คาง เป็นต้น

ข้อแตกต่างระหว่างเนื้อเยื่อตัวเองและเนื้อเยื่อเทียม

แม้จะได้ชื่อว่าเนื้อเยื่อเหมือนกัน แต่ทั้ง 2 แบบนี้ก็มีข้อที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้ครับ

  • เนื้อเยื่อตัวเอง

มักนิยมใช้ส่วนกระดูกอ่อนหลังใบหู สามารถอยู่ได้นานตลอดชีวิต และมีความปลอดภัยมาก และจากที่กล่าวไปข้างต้นครับว่าจะเกิดอาการแพ้ได้ยากเนื่องจากเป็นเนื้อเยื่อที่มาจากร่างกายของคนไข้เอง อีกทั้งยังสามารถเติมซ้อนกันได้หลายครั้งเพื่อเพิ่มความพุ่งโด่งได้อีกด้วย

  • เนื้อเยื่อเทียม

เนื้อเยื่อเทียม หรือ Megaderm เป็นวัสดุที่สังเคราะห์ขึ้นจากคอลลาเจน มีลักษณะเป็นแผ่นนิ่มๆ ที่มีโครงสร้างทางชีวะเคมีและโครงสร้างเนื้อเยื่อเช่นเดียวกับผิวหนังจึงสามารถใช้แทนกันได้ครับ

ใครเหมาะกับวัสดุชนิดใดบ้าง?

จากที่กล่าวไปครับว่า เนื่องจากคนไข้ที่ต้องการเสริมดั้ง มักมีความแตกต่างกันตรงเนื้อที่สันจมูก ที่มีความมากน้อยไม่เท่ากัน การเลือกวัสดุให้เหมาะกับตนเองจึงสำคัญมาก

ซิลิโคน

จากการที่ซิลิโคน แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ แบบสำเร็จรูป และ เหลาเอง นั้น ก็สามารถนำไปใช้เสริมให้เหมาะกับคนไข้แบบต่างๆ ได้ ดังนี้

  • คนเนื้อบาง เนื้อน้อย

หรือจมูกเล็กๆ ก็เหมาะกับซิลิโคนนิ่มๆ หน่อย เพราะจะทำให้ดูเป็นธรรมชาติดูไม่เป็นแท่ง สัน ชัดเจน

  • คนเนื้อจมูกมาก

ก็ใช้แบบที่ไม่ต้องนิ่มมากได้ เพราะเนื้อจมูกที่หนาอยู่แล้วจะทำให้ไม่เห็นขอบสันของซิลิโคนที่ชัดเจน อีกทั้งเนื้อจมูกที่หนานี้จะมีแรงรัดมาก หากใช้ซิลิโคนที่นิ่มไปจะรัดจนซิลิโคนบิดเอียงได้ในอนาคต

เนื้อเยื่อตัวเอง / เนื้อเยื่อเทียม

การเสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อตัวเอง หรือ เนื้อเยื่อเทียมนั้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเนื้อจมูกน้อย หรือผิวหนังบางครับ เพราะเป็นการทำให้เนื้อจมูกไม่สัมผัสกับซิลิโคนโดยตรง อีกทั้งยังทำให้ดูโด่งเป็นธรรมชาติและยังสามารถป้องกันการทะลุซิลิโคนได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย

วิธีการผ่าตัดศัลยกรรมจมูก

การผ่าตัดศัลยกรรมจมูก แบ่งเป็น 2 วิธี ดังนี้

ทําจมูกแบบเปิด  หรือ Open Rhinoplasty

การเสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty หรือ Open Reconstruction) คือการทำจมูกแบบเปิด เทคนิคศัลยกรรมที่ช่วยแก้ไขให้รูปร่างจมูกดูสมบูรณ์ขึ้น ด้วยการผ่าตัดเปิดแผลบริเวณฐานตรงปลายของรูจมูกทั้งสองข้าง เผยโครงสร้างภายในทุกส่วน ทำให้หมอสามารถวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างตรงจุด และแก้ทรงจมูกได้หลากหลาย อยากให้จมูกยาวขึ้น เล็กลง หรืออยากปรับให้แกนจมูกตรงสวยก็ทำได้โดยใช้กระดูกอ่อนหรือเนื้อเยื่อสังเคราะห์เป็นตัวช่วยหลัก ถือเป็นวิธีที่แตกต่างจากการเสริมจมูกแบบปิด (Close Rhinoplasty) ที่ใช้ซิลิโคนเน้นการเสริมจมูกให้โด่งขึ้นเพียงอย่างเดียว การเสริมจมูกแบบโอเพ่นจะช่วยให้หมอสามารถมองเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้ทั้งหมด ทำให้ช่วยแก้ไขปัญหาของคนไข้ได้ตรงจุดและสวยที่สุด

ข้อดีของการเสริมจมูกแบบ Open

  1. เนื่องจากเป็นการเสริมจมูกแบบที่หมอสามารถเห็นโครงสร้างภายในจมูกคนไข้ได้ทั้งหมด จึงทำให้หมอสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด จมูกจึงออกมาสวย และเป๊ะมากกว่าแบบ Close Rhinoplasty !
  2. ลดปัญหาจมูกทะลุ เบี้ยวและเอียงในอนาคต
  3. สามารถตกแต่งปลายจมูกให้ปลายเชิด พุ่งขึ้นมากกว่าแบบ Close Rhinoplasty โดยไม่กังวลว่าจมูกทะลุ

ข้อเสียของการเสริมจมูกแบบ Open

  1. ระยะเวลาระหว่างผ่าตัดใช้เวลานาน
  2. จำเป็นต้องใช้ยาสลบ
  3. ราคาค่อนข้างสูงกว่าแบบ Close Rhinoplasty
  4. เหมาะสำหรับคนที่เคยทำศัลยกรรมจมูกมาแล้วต้องการแก้ ปรับทรง

ทําจมูกแบบปิด หรือ Close Rhinoplasty

การทำจมูกแบบธรรมดาหรือ Close Rhinoplasty เป็นการเสริมจมูกด้วยเทคนิคเปิดแผลบริเวณด้านในจมูกข้างเดียวเพื่อใช้สำหรับใส่ซิลิโคนเข้าไปด้านในเพื่อรองบริเวณสันจมูกถึงปลายจมูกให้โด่งสวยงาม ซึ่งเป็นวิธีปกติทั่วไปที่หลายคนนิยมใช้บริการครับ ซึ่งวัสดุของซิลิโคนที่ใช้ก็มีหลากหลายแล้วแต่ความพอใจของคนไข้ที่จะเลือกใช้และความถนัดของหมอที่ทำให้ครับ

ข้อดีของการทำจมูกแบบ Close

  1. ใช้ระยะเวลาในการทำไม่นาน
  2. ราคาไม่สูง
  3. ไม่เห็นแผลบริเวณภายนอกจมูก
  4. ไม่ต้องใช้ยาสลบในการผ่าตัด

ข้อเสียของการทำจมูกแบบ Close

  1. วิธีนี้อาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องของรูปทรงจมูกได้มากนัก เนื่องจากขั้นตอนการทำที่เป็นการใส่ซิลิโคนในสันจมูกอย่างเดียว หมอไม่สามารถมองเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้ทั้งหมด
  2. ในอนาคตอาจเพิ่มความเสี่ยงเรื่องทรงจมูกเบี้ยว หรือทำให้เนื้อจมูกบางลง
  3. ในกรณีที่คนไข้ต้องการให้ปลายจมูกเชิ่ดหรือพุ่ง วิธีนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์มากครับ

อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่กำลังหาข้อมูลก่อนเสริมจมูกหรือแก้จมูก อาจจะกำลังสับสนว่าแล้วตัวของคุณเองเหมาะกับวิธีที่สุด? ซึ่งต้องขอบอกก่อนว่าการเสริมจมูกในแต่ละแบบนั้นไม่ได้มีข้อกำหนดหรือกฏบังคับนะครับว่าคนไข้คนไหนต้องผ่าตัดด้วยวิธีใด แต่สิ่งสำคัญคือคนไข้ต้องเข้าใจในปัญหาของจมูกของตนเองว่า หากมีปัญหาแบบนี้ จะเหมาะกับวัสดุแบบใด และวิธีผ่าตัดแบบไหน กันแน่ เพื่อเป็นการศึกษาให้ละเอียดและเพื่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เองครับ

YKJ Medical Center ยืน 1 ด้านศัลยกรรม เสริมความงาม

โดยหมอกัน อาจารย์แพทย์ด้านการทำจมูกเทคนิคโอเพ่น และการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ

YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ

คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น

  • “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
  • “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
  • “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023

นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน

คลิกจองคิวหรือปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

โทรปรึกษา

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทำจมูกที่ไหนดี? เลือกคลินิกแบบไหนให้จมูกปัง ดั้งพุ่ง อยากรู้ต้องอ่าน

หลังเสริมจมูก หลังทําจมูกกินทุเรียนได้ไหม ต้องงดกี่วัน?

บทความ : แก้จมูก ทำไมราคาสูงกว่าเสริมจมูกใหม่ ?

home หน้าแรก promotion โปรโมชั่น tel ปรึกษาฟรี line ปรึกษาฟรี