หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสูญเสียความมั่นใจจากรอยแดงจากสิว และกำลังมองหาวิธีรักษาที่เหมาะสำหรับตัวเองมากที่สุด วันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการรักษารอยแดงทั้งจากวิธีธรรมชาติและวิธีรักษาจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ว่ามีวิธีไหนบ้าง เห็นผลการรักษานานไหม ใช้เวลานานแค่ไหน มาดูกันเลยครับ
รอยแดงจากสิวเกิดจากอะไร
ตามกลไกของร่างกายแล้ว เมื่อเกิดสิวขึ้นมาทั้งสิวหัวขาวหรือสิวหัวดำก็ตาม หากปล่อยไว้ไม่รีบรักษาจะเกิดการอักเสบและติดเชื้อแบคทีเรียจนกลายเป็นสิวอักเสบและตุ่มหนอง ทำให้ร่างกายต้องเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังบริเวณผิวหนังที่อักเสบเพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อ กลายเป็นรอยแดงจากสิว ในกรณีของผู้ที่มีผิวคล้ำ จะมีรอยแดงเป็นรอยสีน้ำตาลหรือดำ แม้ว่ารอยดังกล่าวจะหายได้เองตามธรรมชาติ แต่ก็ใช้เวลานานประมาณ 3-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าและการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล
แนะนำวิธีรักษารอยแดงจากสิวด้วยวิธีธรรมชาติ
- หลีกเลี่ยงการแกะหรือสัมผัสบริเวณที่เกิดสิว เพราะจะกระตุ้นให้เนื้อเยื่อผิวหนังและรูขุมขนอักเสบจนเกิดแผลขึ้นมา เนื่องจากนิ้วมือของเรามีเชื้อโรคติดอยู่ตามซอกเล็บ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการสครับผิวบริเวณที่เกิดสิว เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดรอยแดงง่ายยิ่งขึ้น
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีแสงแดดเป็นเวลานาน เนื่องจากรังสี UV ในแดดจะกระตุ้นให้รอยแดงเข้มขึ้นและมีสีผิวไม่สม่ำเสมอ และอย่าลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ต้องออกจากบ้าน
- เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้การอักเสบของสิวลดลง อีกทั้งช่วยลดรอยแดงให้จางลงด้วยครับ
- ทายาที่มีส่วนผสมของวิตามิน A (Retinol), วิตามิน C และวิตามิน B13 (Niacinamide) เพื่อผลัดเซลล์เคราติน (Keratin) ในชั้นผิวให้หลุดออกและกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวชั้นลึก ส่งผลให้รอยแดงจางลง แต่หากคุณเป็นผู้ที่มีผิวบาง ผมแนะนำให้เลือกใช้อนุพันธ์ของวิตามิน A หรือเรตินอยด์ (Retinoid) ซึ่งมีความเข้มข้นน้อยกว่าเรตินอลและเกิดการระคายเคืองน้อยกว่า
- ใช้กรดผลไม้ (AHA) ลอกหน้า ช่วยให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ ทำให้รอยแดงและรอยแผลเป็นจากสิวลดลงเร็วขึ้น
- ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติพอกหน้า ผมแนะนำให้ใช้น้ำผึ้งผสมกับน้ำมะนาว/โยเกิร์ต/เกลือ+น้ำอุ่น พอกหน้าทิ้งไว้เป็นเวลา 20 นาที เป็นประจำทุกวันจะช่วยให้รอยแดงจางลง
รักษารอยแดงจากสิวเร่งด่วนได้อย่างไรบ้าง
1. เลเซอร์หน้าใสด้วยเครื่องเลเซอร์ Quadro Star Pro Yellow Laser
เป็นนวัตกรรมการรักษาที่มีคุณภาพสูงจากประเทศเยอรมนี ด้วยนวัตกรรมแสง Diode Laser สีเหลืองมีความยาวคลื่นที่ 577 นาโนเมตร จึงช่วยกำจัดรอยที่เกิดจากความผิดปกติของการสร้างเม็ดสีเมลานินและเส้นเลือดฝอยแตก ช่วยแก้ปัญหาทั้งฝ้าลึก, ฝ้าเลือด (Telangiectatic Melasma) หรือรอยแดงจากการอักเสบของสิวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังส่งผ่านพลังงานแบบ Homogeneous beam ทำให้พลังงานที่ส่งออกมามีความสม่ำเสมอ จึงไม่ก่อให้เกิดบาดแผลและไม่ต้องพักฟื้นเหมือนวิธีการรักษาด้วยเลเซอร์แบบเดิม ที่สำคัญไม่มีผลข้างเคียงหลังการรักษาด้วย จึงปลอดภัยและเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าต่าง ๆ ทั้งนี้ควรรักษาอย่างต่อเนื่องทุก 1-2 สัปดาห์เพื่อผลการรักษาที่ดีด้วย
2. Pico laser
เป็นเครื่องเลเซอร์รุ่นล่าสุดชนิด Picosecond Nd:YAG ซึ่งได้รับการพัฒนาเพื่อรักษารอยโรคที่มีความผิดปกติของเม็ดสี (pigmentation lesions) และรอยที่เกิดจากโรคอื่น ๆ ของผิวหนัง เนื่องจาก Pico laser จะปล่อยคลื่นแสงความถี่ระดับ 1 ต่อล้านล้านวินาที จึงทำลายเม็ดสีผิดปกติด้วยการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง รวมถึงการปล่อยพลังงาน (output energy) และระยะเวลาปล่อยลำแสงเลเซอร์ (pulse duration) ที่มีความเสถียรสูงและใช้ช่วงเวลาที่สั้นมาก (ultra-short pulse) เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่งผลให้ระคายเคืองต่อผิวของคนไข้น้อยลง เจ็บน้อยกว่า นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงและใช้ระยะเวลาพักฟื้นน้อยกว่าเลเซอร์ชนิดอื่นด้วย
เตรียมตัวอย่างไรก่อนทำเลเซอร์
- ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนรักษา
- งดใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวหน้าก่อนทำเลเซอร์
- งดทานยาหรือวิตามินที่มีผลทำให้เลือดไหลง่ายอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ได้แก่ แปะก๊วย, Aspirin, Fish Oil, วิตามิน E, หรือ Primrose
- ขอคำปรึกษาและบอกรายละเอียดเกี่ยวกับโรคประจำตัว (ถ้ามี) ก่อนตัดสินใจทำเลเซอร์
วิธีการดูแลหลังจากเลเซอร์
- ประคบเย็นอย่างน้อย 20 นาที จากนั้นค่อยทายาปฏิชีวนะหรือขี้ผึ้งวาสลินตามแพทย์สั่ง
- ห้ามโดนน้ำอย่างน้อย 24 ชั่งโมง หากถูกน้ำให้รีบซับให้แห้งทันที
- ห้ามสัมผัสหน้าด้วยการถู, แกะ, เกา หรือเล่นกีฬาที่อาจปะทะหรือเสียดสีบริเวณใบหน้า
- หากเกิดผื่นบวมแดง หรือมีตุ่มขึ้น ควรรีบมาพบแพทย์ทันที
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน