แม้ว่าการเสริมจมูกจะเป็นสิ่งที่น่าพอใจสำหรับสาว ๆ หนุ่ม ๆ หลายคนก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วซิลิโคนล้วนมีอายุการใช้งานและเงื่อนไขบางอย่างที่อาจทำให้ใครหลายคนต้องมานั่งแก้หรือถึงขั้นต้องถอดซิลิโคนออกเลยก็มีเหมือนกัน หลายคนอาจคาดหวังว่าการถอดออกนั้นจะช่วยให้จมูกกลับมาเหมือนเดิมแต่ก็อาจไม่เป็นเช่นนั้นในบางเคส ว่าแต่การถอดซิลิโคนจมูก อันตรายมั้ย ทำอย่างไรให้ปลอดภัย มาอ่านกันเลยครับ
ถอดซิลิโคนจมูกคืออะไร
เป็นวิธีการรักษาอันมาจากการเลือกไซซ์ซิลิโคนผิด สัมผัสแผลหลังเสริมจมูกบ่อยเกินไป ไม่ได้ตะไบฮัมพ์ก่อนเสริมจมูก หรืออายุที่เพิ่มขึ้นที่ส่งผลให้จมูกอักเสบหรือติดเชื้อรุนแรงจนเสี่ยงต่อภาวะซิลิโคนทะลุ ส่วนผลการรักษาแบบออกเป็น 2 กรณี หากคนไข้ที่เสริมจมูกครั้งแรกและถอดซิลิโคนออกครั้งแรกโดยที่ไม่ได้นำกระดูกอ่อน หรือเนื้อเยื่อใด ๆ มาเสริมจมูก อาจไม่มีผลข้างเคียงหลังการรักษามากนัก แต่หากคนไข้ที่นำกระดูกอ่อนส่วนอื่นมาเสริม หรือตะไบกระดูกออก อาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงหลังการรักษานั่นก็คือจมูกของคนไข้มีรูปร่างแปลกไปจากเดิมและไม่สามารถแก้ให้กลับมาเหมือนเดิมได้อีก
สาเหตุของการถอดซิลิโคนจมูก
- เลือกไซซ์ซิลิโคนผิด เลือกขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไป ทำให้รูปทรงจมูกผิดรูปไปจากเดิม
- สัมผัสบ่อย ๆ จนเกิดการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดศัลยกรรมจมูก
- ไม่ได้ตะไบฮัมพ์ก่อนเสริมจมูก และเสี่ยงต่อการเกิดซิลิโคนทะลุ
- อายุมากขึ้น ทำให้ผิวหนังเริ่มบางลงและเห็นซิลิโคนจมูกชัดเจนขึ้น ส่งผลต่อความมั่นใจบนใบหน้า
ขั้นตอนการถอดซิลิโคนจมูก
- แพทย์ตรวจสอบประวัติการรักษาและการเสริมจมูกของคนไข้โดยละเอียดเพื่อวิเคราะห์และหาวิธีรักษาที่เหมาะสม ก่อนที่จะถ่ายรูปก่อนและหลังถอดซิลิโคน
- แพทย์จะให้คนไข้รับประทานยาแก้อักเสบก่อนถอดซิลิโคน
- แพทย์จะทำความสะอาดผิวหน้าของคนไข้ให้เรียบร้อย
- จากนั้นแพทย์จะฉีดยาชาลงบนผิวหน้า เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้วแพทย์จะเปิดปากแผลขนาดเล็กเพื่อถอดซิลิโคนออก
- หลังจากถอดเสร็จและเย็บปิดปากแผลแล้วคนไข้สามารถกลับบ้านได้ทันทีครับ ทั้งนี้หากคนไข้ไม่มีอาการอักเสบ แพทย์อาจจะเย็บแผลเพียง 1 – 2 เข็ม แต่หากแผลอักเสบหรือมีหนอง แพทย์จะไม่เย็บแผลแต่จะให้กดผ้าก๊อซค้างไว้บริเวณรูจมูกข้างที่ถอดซิลิโคนโดยคนไข้สามารถเอาผ้าออกได้หลังจากผ่าตัดไปแล้วอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
ผลกระทบหลังถอดซิลิโคนมีอะไรบ้าง

- จมูกผิดรูปจากการเกิดพังผืด 1 ชั้น ยิ่งถ้าคนไข้แก้จมูกหลายครั้งมากเท่าไหร่ พังผืดก็เพิ่มขึ้นตามจำนวนของการแก้ ซึ่งเป็นไปตามกลไกทางธรรมชาติของกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
- จมูกยุบ จมูกบุ๋มลงไปเนื่องจากซิลิโคนอันเก่ามีขนาดใหญ่และยืดเนื้อปลายจมูกค่อนข้างมาก
- ปลายจมูกแข็ง เกิดจากการใช้เนื้อเยื่อหรือกระดูกอ่อนมาเสริมปลายเพื่อป้องกันซิลิโคนทะลุ หรือเป็นผลข้างเคียงจากการบาดเจ็บก่อนหน้าที่จะถอดซิลิโคนออก
- เนื้อเยื่อที่บริเวณจมูกเปลี่ยนแปลงไป (แต่จะมากหรือน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน)
ดูแลแผลหลังถอดซิลิโคนอย่างไร
สำหรับวิธีดูแลหลังการรักษานั้น หมอกันขอแนะนำให้ใช้สำลีชุบกับน้ำเกลือเพื่อทำความสะอาดแผล โดยเช็ดเบา ๆ บริเวณแผล กรณีที่คนไข้เย็บไหมละลายเอาไว้ ตัวไหมจะหลุดออกเองภายใน 2 – 3 สัปดาห์ ซึ่งในบางเคสอาจได้รับยาฆ่าเชื้อชนิดรับประทานมาจากแพทย์ เนื่องจากบางเคสจำเป็นต้องถอดซิลิโคนเพราะเกิดการติดเชื้อ ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดนะครับ
ทั้งนี้หากต้องการให้แผลแห้งไว หายเร็ว แนะนำให้ประคบเย็นโดยใช้เจลแพ็กหรือผ้าขนหนูเปียก เพื่อบรรเทาอาการอย่างต่อเนื่องประมาณ 48 ชั่วโมง และประคบอุ่นเมื่อครบ 1 สัปดาห์ เพื่อให้ความร้อนช่วยให้ลิ่มเลือดเก่าละลายตัวเร็วขึ้น อีกทั้งช่วยลดพังผืดที่แข็งเป็นไตให้กลับมานุ่มขี้นด้วยครับ
ถอดซิลิโคนแล้วจมูกจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม?
สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ครับ เพียงแต่ต้องให้เวลาร่างกายได้พักฟื้นสักหน่อยประมาณ 2 – 3 เดือนครับ
อาหารลดบวมมีอะไรบ้าง
- วิตามินเอ ช่วยลดการติดเชื้อหลังผ่าตัด ขจัดเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกาย ช่วยลดอาการบวม พบได้ในผลไม้ที่มีสารแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) อย่างข้าวโพด แครอท คะน้า ผักโขม
- ธาตุเหล็ก ช่วยลดอาการบวมช้ำ ปรับอุณหภูมิภายในร่างกายให้สมดุล อีกทั้งช่วยขจัดสารพิษในร่างกายอีกด้วย พบได้ในเครื่องในสัตว์ (ตับและม้าม) หอยนางรม หอยแมลงภู่ ผักใบเขียว ผลไม้แห้ง
- โพแทสเซียม ช่วยควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกาย ช่วยกำจัดของเสียในร่างกาย และมีกากใยอาหารสูงซึ่งช่วยในระบบขับถ่าย พบได้ในผลิตภัณฑ์จากนม ผลไม้แห้ง พริกหวาน หอมหัวใหญ่
ถอดซิลิโคนอย่างไรให้ปลอดภัย
- เลือกคลินิกที่มีชื่อเสียงเป็นเวลานาน เชื่อถือได้ มาตรฐานความปลอดภัยในการรักษาสูง
- เลือกคลินิกที่เหล่าผู้มีชื่อเสียง ทั้งดารา นักร้อง นางแบบ เข้ารับการรักษาและรีวิวแนะนำ
- เลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้ชำนาญ ทำการรักษาคนไข้มาเป็นเวลานาน
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน