หนึ่งในปัญหาที่ทำเอาสาว ๆ หลายคนวิตกกังวลและไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเองอยู่บ่อยครั้ง นั่นคือปัญหาขาเบียดที่นอกจากจะสร้างความรำคาญใจแล้ว ยังก่อให้เกิดแผลจากการเสียดสีกันของต้นขาอีกด้วย วันนี้หมอกันจะมาแนะนำวิธีลดขาเบียดทั้งวิธีธรรมชาติและการใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย เพื่อให้คุณมีเรียวขาสวยและมั่นใจทุกครั้งที่แต่งตัว ว่าแต่จะมีวิธีไหนบ้าง มาดูกันเลยครับ
ขาเบียดคืออะไร
เป็นภาวะที่ร่างกายได้รับไขมันมากเกินไปและสะสมอยู่บริเวณต้นขาด้านในจนไม่เหลือช่องว่างระหว่างขาทั้ง 2 ข้าง หากยืนขึ้นหรือเดินจะทำให้ขาทั้ง 2 ข้างเบียดและเสียดสีกันจนเกิดรอยแดง บางคนอาจเป็นแผลบริเวณต้นขาด้านใน นอกจากนี้อาจทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวกและเกิดการอับชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์บริเวณจุดซ่อนเร้นอีกด้วย
ปัญหาขาเบียดเกิดจากอะไร
- ฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิงที่เอื้อต่อการสะสมไขมันตามต้นขาและสะโพก
- เกิดจากกรรมพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่, ปู่ย่าตายายก็ตาม
- รับประทานแป้ง, น้ำตาล, ไขมันและอาหารรสจัดปริมาณมากเกินไป จนไขมันสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายและกลายเป็นโรคอ้วนตามมา
- ดื่มน้ำน้อยเกินไป ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานไม่เต็มที่
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป ร่างกายจะได้รับน้ำตาลและเผาผลาญได้ไม่หมด จนเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
- พฤติกรรมจากความเคยชิน ไม่ว่าจะเป็นการนั่งไขว่ห้างที่ทำให้ไขมันสะสมที่ขาและเลือดไหลเวียนไม่สะดวก หรือยืนนั่งนานเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อตึงและต้นขาใหญ่ขึ้น
- ออกกำลังขาน้อยเกินไป ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันบริเวณต้นขาได้น้อยลง
แนะนำวิธีลดขาเบียดด้วยตัวเอง
1. เลือกทานอาหาร
แม้ว่าหลายคนจะเชื่อว่าการอดอาหารจะช่วยให้ผอมลงได้ แต่ในความเป็นจริงนั้นกลับทำให้คุณหิวมากกว่าเดิม เพราะร่างกายต้องการพลังงานและสารอาหารไปใช้ เมื่อคุณอดอาหารในมื้อแรกแล้วจะทำให้คุณทานอาหารมื้อต่อไปในปริมาณที่มากขึ้น แต่ในทางกลับกันระบบเผาผลาญของร่างกายเสื่อมประสิทธิภาพลง เนื่องจากร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการ ร่างกายจึงเผาผลาญได้ไม่หมดและเกิดไขมันสะสมในร่างกายเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลทางด้านอารมณ์ ทำให้อารมณ์เสีย หงุดหงิดง่าย เนื่องจากขาดแป้งและน้ำตาลไปหล่อเลี้ยงสมอง
ดังนั้นการเลือกทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอแล้ว ยังช่วยปรับสมดุลในร่างกายและทำให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่างกายจึงขับไขมันสะสมในร่างกายได้ดียิ่งขึ้น โดยอาหารที่คุณควรทาน ได้แก่ อาหารจำพวกผักและผลไม้ เนื่องจากมีใยอาหารสูง ดังนี้
- ไข่ ช่วยเผาผลาญไขมันบริเวณต้นขาและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
- เนื้อปลา โปรตีนในปลาจะช่วยให้รู้สึกอิ่มเป็นเวลานานและเผาผลาญไขมันบริเวณต้นขาไปในตัว
- เกรปฟรุต ช่วยลดระดับอินซูลินในร่างกาย ปรับสมดุลของระบบเผาผลาญในร่างกายและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ถั่ว ช่วยเผาผลาญไขมันบริเวณต้นขา นอกจากนี้ยังช่วยลดความอยากอาหารลงและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
- เนยถั่ว ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเผาผลาญไขมันได้ดี อีกทั้งเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) สำหรับกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ
- ธัญพืชไม่ขัดสี ช่วยกำจัดไขมันเลวออกจากร่างกาย
2. ออกกำลังกายลดต้นขา
- วิ่ง เมื่อคุณวิ่งจะทำให้กล้ามเนื้อหลายส่วนทำงานพร้อมกัน นอกจากจะช่วยกระชับต้นขาแล้วยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย
- Leg Raise เอามือทั้ง 2 ข้างแนบกับลำตัว จากนั้นยกขาทั้ง 2 ข้างให้เหยียดตรงโดยที่เท้าชี้ไปบนเพดาน
- Squats เริ่มจากยืนตรงกางขาให้กว้างกว่าหัวไหล่เล็กน้อย จากนั้นเหยียดแขนไปด้านหน้าและย่อเข่าลง ทำรอบละ 10-15 ครั้ง จำนวน 3 รอบ จะช่วยให้ต้นขากระชับยิ่งขึ้น
- Side Leg Lift เริ่มจากนอนตะแคงโดยใช้แขนข้างที่ติดพื้นตั้งฉากยันพื้นไว้ จากนั้นยกขาด้านบนขึ้น-ลง ค้างไว้ประมาณ 3 วินาที เมื่อยกขาขึ้นแล้วจึงหายใจออก ส่วนยกขาลงให้หายใจเข้า ทำรอบละ 15 ครั้ง
ลดขาเบียดได้ง่าย ๆ ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะจากหมอกัน
1. Venus Freeze
เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยกระชับต้นขาด้วยการส่งคลื่นวิทยุแบบ RF กับแม่เหล็กไฟฟ้า MP เพื่อเปลี่ยนคลื่นเป็นพลังงานความร้อนกว่า 40 องศาเซลเซียส กระจายทั่วบริเวณจุดที่รักษาเพื่อกระชับกล้ามเนื้อชั้นลึก เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปที่มีต้นขาย้วย ไขมันสะสม รวมถึงผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยหรือมีเซลลูไลท์ในปริมาณมากและต้องการลดไขมันบริเวณต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า, ลำคอ, รอบเอว, พุง และต้นขา นอกจากนี้ยังช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อีกด้วย ทั้งนี้ควรรักษา 8-10 ครั้ง ทุก ๆ 7-10 วัน ข้อดีของการรักษาประเภทนี้จะไม่รู้สึกเจ็บขณะรักษา ไม่มีแผลผ่าตัดและเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ส่วนผลข้างเคียงอาจมีเพียงรอยผิวแดงเล็กน้อย แต่จะหายไปเองในไม่ช้า Venus Freeze มีขั้นตอนการทำงานทั้งหมด 2 ขั้นตอน ได้แก่
- PMF (Pulsed Magnetic Field) เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ช่วยขยายเส้นเลือดฝอย ส่งผลให้เซลล์ไขมันหดลงและสลายเป็นน้ำออกมาตามเหงื่อและปัสสาวะ ช่วยให้ระบบการเผาผลาญดีขึ้น
- Lipolysis เป็นการขับไขมันเซลลูไลท์ออกจากร่างกายเพื่อไม่ให้มีไขมันกลับมาสะสมอีก เว้นแต่ว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการสะสมไขมันในร่างกาย
*การทำ Venus Freeze ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและเนื้องอก, โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ, ผู้ป่วยต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ, ผู้ที่มีแผลเปิดบริเวณที่รักษา, ผู้ป่วยโรคระบบประสาท, ผู้ป่วยโรคปลอกประสาทอักเสบ และผู้ที่กำลังตั้งครรภ์
2. Meso Fat
เป็นยาฉีดสำหรับสลายไขมันสะสมเฉพาะจุด เพื่อให้บริเวณที่ฉีดกระชับเข้ารูปมากขึ้น โดย Meso Fat เป็นสารสกัดจากถั่วเหลือง, ไข่แดงและวิตามินหลายชนิด ภายในประกอบไปด้วยสาร Artichoke extract (Cynara scolymus) ทำหน้าที่กระตุ้นการสังเคราะห์โคเอนไซม์ (Coenzyme) ในกระบวนการแอแนบอลิซึม (Anabolism) เพื่อช่วยในการลดเนื้อเยื่อไขมันและลดการสังเคราะห์กรดไขมัน เมื่อฉีดเข้าสู่ต้นขาแล้วจะกระตุ้นระบบการทำงานของเมตาบอลิซึม (Metabolism) หรือกลไลการเร่งสลายไขมันตามธรรมชาติภายในร่างกาย ร่างกายจึงดึงไขมันมาใช้และเปลี่ยนให้กลายเป็นพลังงาน ผลที่ได้คือการสลายไขมันส่วนเกินและเซลลูไลท์ที่สะสมในชั้นไขมันนั่นเองครับ เหมาะสำหรับผู้มีที่น้ำหนักตัวเกินมาตรฐานและต้องการลดไขมันเฉพาะจุด, ผู้ที่ไม่อยากเจ็บตัวจากการผ่าตัดและไม่อยากดูดไขมัน, ผู้ที่ออกกำลังกายมานานแต่ต้นขายังไม่กระชับเท่าที่ควร รวมถึงผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันแบบเร่งด่วน เพราะวิธีนี้ไม่ต้องพักฟื้นแม้แต่น้อย ขั้นตอนการทำเมโสแฟตมีทั้งหมด 5 ขั้นตอน ดังนี้
- แพทย์จะตรวจเช็กปัญหาต้นขาเพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม
- แพทย์แนะนำยี่ห้อเมโสแฟตที่เหมาะกับคนไข้ เพื่อให้คนไข้ได้ตัดสินใจเลือกด้วยตัวเอง
- แพทย์จะทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีด
- แพทย์จะประคบน้ำแข็งบริเวณที่จะฉีดเพื่อลดอาการเจ็บ
- แพทย์จะฉีดตัวยาเมโสแฟตเข้าไปจนหมด
3. Body fx
เป็นเทคโนโลยีสลายเซลลูไลท์โดยไม่ต้องผ่าตัด หลักการทำงานของเครื่องนี้จะใช้พลังงานคลื่นวิทยุ RF ร่วมกับคลื่นวิทยุความเข้มสูงที่ปล่อยออกมาช็อตและฆ่าเซลล์ไขมันแบบถาวร อีกทั้งสลายเซลลูไลท์และกระชับผิวไปในตัวด้วย สามารถกำจัดไขมันได้หลากหลายจุด ทั้งต้นแขน, ต้นขา, หน้าท้อง, สะโพก และบริเวณอื่น ๆ โดยแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ขั้นตอน ได้แก่
- Vacuum ใช้ระบบสุญญากาศดูดไขมันและส่งพลังงานคลื่นวิทยุไปยังเซลล์ไขมันบริเวณต้นขา รวมถึงขจัดเซลล์ไขมัน, นวดกระตุ้นระบบน้ำเหลือง และกระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด
- Bipolar RF Power เป็นพลังงานคลื่นวิทยุที่สร้างความร้อนอุ่น ๆ บริเวณต้นขา ทำให้เซลล์ไขมันอ่อนตัว, ผนังเซลล์ไขมันแข็งแรงน้อยลง, กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว ทำให้เซลล์ไขมันเเตกตัว
- HV RF Pulse เป็นพลังงานคลื่นวิทยุความเข้มข้นสูงที่ถูกปล่อยออกมาเจาะรูผนังเซลล์ไขมัน ไขมันในเซลล์จึงถูกระบายออกมาข้างนอกและตายไปเองตามธรรมชาติ ทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียน อีกทั้งให้ผลลัพธ์เทียบเท่าการดูดไขมันแต่เจ็บน้อยกว่า
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน