“เสริมคางบวมไม่เท่ากัน” เป็นปกติหรือไม่ ทำอย่างไรให้หายบวม

"เสริมคางบวมไม่เท่ากัน" เป็นปกติหรือไม่ ทำอย่างไรให้หายบวม

“เสริมคางบวมไม่เท่ากัน” เป็นเรื่องธรรมดาที่หลังจากการเสริมคางนั้น คนไข้จะประสบปัญหาต่างๆ ซึ่งปัญหาดังกล่าวก็ประกอบไปด้วยหลายอาการ เช่น คางบวม คางอักเสบ คางทะลุ เป็นต้น อย่างไรก็ดีครับ ปัญหาคางบวมมักจะเป็นปัญหาทั่วไปและสามารถพบได้ในคนไข้หลายๆ เคส แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องพิจารณาความรุนแรงและสาเหตุของอาการบวมของคนไข้ท่านนั้นๆ ด้วยว่าเกิดจากอะไรกันแน่ และส่งผลร้ายแรงต่อคนไข้มากน้อยเพียงใด

“เสริมคางบวมไม่เท่ากัน” เกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่?

“อาการหลังเสริมคาง” ถือเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าสังเกตหลังจากการผ่าตัด หลายๆ คนอาจคิดว่าการศัลยกรรมคาง เพียงแค่จบขั้นตอนการผ่าตัด ก็ถือว่าจบกันไป แต่ที่จริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้นครับ เพราะหลังจากการเสริมคางแล้วทางศัลยแพทย์จะยังคงให้คำปรึกษาและแนะนำการดูแลตนเองให้กับคนไข้อย่างเคร่งครัด เพราะมิเช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาคางบวมขึ้นมาได้นั่นเองครับ

เสริมคาง คางบวม กี่วัน จึงจะหาย?

ก่อนทำการเสริมคาง คนไข้หลายๆ ท่านอาจจะกังวลเรื่องอาการบวม ช้ำ หรือเข้าที่ช้า ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะอาจทำให้คุณต้องหยุดงานเพื่อพักฟื้นเพิ่มขึ้น แต่โดยปกติแล้วหลังจากเสริมคางจะมีอาการบวมอยู่เพียง 3-7 วัน และหลังจากนั้นอาการบวมก็จะค่อยๆ ลดน้อยลง และเริ่มเห็นรูปของคางใหม่ภายใน 1-3 เดือนหลังการทำ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับการระมัดระวังตัวและการดูแลของคนไข้ในการใช้ชีวิตประจำวันด้วยครับ

เสริมคางแล้วบวมไม่เท่ากันเกิดจากอะไร

หากเสริมคางแล้วบวมไม่เท่ากันเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากการเสริมซิลิโคนที่ไม่เท่ากัน ทำให้เมื่อเสริมซิลิโคนเข้าไปทำให้คางดูบวมและเอียงไม่เท่ากัน การดูแลตนเองที่ไม่ถูกต้อง จนทำให้แผลจากการเสริมคางติดเชื้อ จนเกิดอาการบวมไม่เท่ากัน

  • เกิดจากการเสริมซิลิโคนที่ไม่เท่ากัน ทำให้เมื่อเสริมซิลิโคนเข้าไปทำให้คางดูบวมและเอียงไม่เท่ากัน
  • การดูแลตนเองที่ไม่ถูกต้อง จนทำให้แผลจากการเสริมคางติดเชื้อ จนเกิดอาการบวมไม่เท่ากัน
  • เคยมีประวัติการฉีดฟิลเลอร์ปลอม สารเหลว ไม่ได้มาตรฐาน หากฟิลเลอร์ไม่ได้สลายไปจนหมดก็อาจทำให้คางดูบวม ผิดรูปได้
  • เทคนิคการผ่าตัดของแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ หรือไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบวมหรือเส้นประสาทอักเสบได้

เสริมคาง-คางแบบไหนสวย-เสริมคางที่ไหนดี-หมอกัน-ธีระธรฌ์คลินิก-เสริมคางแล้วหน้าเรียวจริงเหรอ-รูปรีวิว

แนวทางการดูแลตนเองหลังจากศัลยกรรมคาง

นอนหมอนสูง

โดยในช่วง 2 อาทิตย์แรกคนไข้ต้องนอนด้วยหมอนสูง เพราะจะช่วยประคองช่วงใบหน้าไม่ให้คางไปกระทบกับที่นอนในช่วงที่คนไข้หลับแบบไม่รู้ตัว และป้องกันไม่ให้คนไข้นอนตะแคงเนื่องจากอาจทำให้คางเสียทรงได้

ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำเด็ดขาด

โดยคนไข้ต้องพึงระวัง ไม่ว่าจะทำกิจวัตรประจำวันใดๆ ควรเฝ้าระวังอย่าให้แผลโดนน้ำเสมอจนกว่าแพทย์จะนัดตัดไหมบริเวณแผล

ห้ามของแสลงและแอลกอฮอล์

โดยคนไข้ต้องทำการงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของหมักดอง อาหารรสจัด งดบุหรี่ อาหารสุกๆดิบๆ วิตามินอาหารเสริม อาหารทะเล อาหารกระป๋อง สารเสพติดทุกชนิด อย่างน้อย 1 เดือน

ประคบแผล

เนื่องจากในช่วง 1-2 วันแรก จะมีเลือดไหลซึมใต้ผ้าดามอยู่บ้าง ดังนั้น คนไข้อาจดูแลตนเองโดยการประคบเย็น ซึ่งอาจนำแผ่นเจลแบบเย็นมาใช้ ซึ่งจะคอยห้ามเลือดได้ หรือ หยุดเลือดได้ไวมากขึ้นนั่นเอง โดยให้คนไข้คอยประคบบริเวณข้างแก้ม แก้มซ้าย แก้มขวา (อย่าให้โดนซิลิโคนในกรณีที่เสริมไว้) โดยประคบ 5-10 วิ แล้วเอาออก หลังจากนั้นในวันที่ 4 ให้เริ่มประคบอุ่นเพื่อรอการตัดไหม โดยนำแผ่นเจลไปแช่น้ำให้อุ่นแล้วประคบที่แก้มทั้ง 2 ข้างเหมือนเดิม

เสริมคาง-คางแบบไหนสวย-เสริมคางที่ไหนดี-หมอกัน-ธีระธรฌ์คลินิก-เสริมคางแล้วหน้าเรียวจริงเหรอ-รูปรีวิว

ทั้งนี้ คนไข้จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจจากศัลยแพทย์อย่างต่อเนื่อง ตามที่คุณหมอนัดเพื่อทำการประเมินอาการเป็นระยะๆ และความปลอดภัยที่คนไข้พึงได้รับ นอกจากนี้คนไข้ตรงใส่ใจในการดูแลตนเองเกี่ยวกับข้อควรระวังที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหลังจากการทำคางกันไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดเลยก็ยังคงเป็นการเลือกทำกับคลินิกและแพทย์ที่มีประสบการณ์ รวมถึงควรดูแลตัวเองให้ดีตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนหลังการศัลยกรรม รวมถึงระมัดระวังไม่ให้ใบหน้าถูกกระทบกระเทือนจนคางเบี้ยว แล้วต้องกลับมาแก้ซ้ำอีกรอบด้วยนั่นเองครับ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Q&A – 7 คำถามยอดฮิตที่คนอยาก”ทำคาง”ต้องรู้

มาดูกัน! อาการหลังเสริมคาง ที่ควรระวังมีอะไรบ้าง?

5 ของแสลงหลังผ่าตัด ไม่อยากแผลหายช้า ห้ามกิน!

home หน้าแรก promotion โปรโมชั่น tel ปรึกษาฟรี line ปรึกษาฟรี