รูจมูกผิดปกติเป็นหนึ่งในภาวะที่กวนใจของสาว ๆ หลายคน เพราะนอกจากจะส่งผลต่อภาพลักษณ์แล้วยังต้องเสียทั้งเงินทั้งเวลามานั่งแก้ทรงจมูกให้เข้ารูปอีกด้วย วันนี้เราจะมาพูดถึงสาเหตุและวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวกันครับ
รูจมูกผิดปกติคืออะไร
เกิดขึ้นจาก 2 สาเหตุสำคัญ ได้แก่ แพทย์ที่ไม่มีความชำนาญมากพอในการเหลาซิลิโคนจมูก และเกิดจากการใช้ซิลิโคนจมูกแบบสำเร็จรูป ทำให้ทรงจมูกไม่พอดีกับรูปหน้า สโลปของสันจมูกไม่รับกับใบหน้าส่วนอื่น ใบหน้าจึงดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ ในบางกรณีที่ใช้ซิลิโคนไม่มีขา อาจทำให้ทรงจมูกที่ออกมาดูแข็ง มีปลายจมูกสั้น และเชิดขึ้น หากฝืนใช้ต่อไปนาน ๆ อาจเสี่ยงเกิดปัญหาต่อการหายใจและโรคภายในจมูก เช่น ไซนัส และหนองอักเสบในโพรงจมูก นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อปลายจมูกบางและจมูกทะลุตามมา โดยภาวะจมูกทะลุสังเกตได้จาก
- มองเห็นปลายจมูกมีสีขาวใส ซึ่งเป็นสีของซิลิโคน หรือเห็นทรงซิลิโคนชัดเจน
- ปลายจมูกแดงหรือคล้ำ แตกต่างจากสีจมูกส่วนอื่น
- มีเนื้อจมูกบางลง
- มีสิวขึ้นที่ปลายจมูก
- จมูกอักเสบ
ไซนัสอักเสบ: ปัญหาร้ายแรงที่เกิดจากรูจมูกผิดปกติ
ไซนัสอักเสบเกิดจากการอักเสบและติดเชื้อของเยื่อบุจมูกและบริเวณไซนัส ส่งผลให้แน่นจมูก มีน้ำมูกไหลออกมาหรืออาจไหลลงคอ ปวดแน่นใบหน้า แย่ไปกว่านี้อาจส่งผลให้การรับรู้รสและกลิ่นเสียไป เมื่อตรวจดูภายในโพรงจมูกอาจพบการอุดตัน มีเนื้อเยื่อบวมหรือมีริดสีดวงจมูก หรือหนองไหลตามมา หากร้ายแรงอาจมีภาวะแทรกซ้อนจากไซนัสอักเสบที่ส่งผลไปถึงดวงตาและสมอง เช่น ตาบวม รู้สึกเจ็บตา มองเห็นภาพซ้อน มองเห็นภาพไม่ชัด ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง ฯลฯ
แก้ไขรูจมูกผิดปกติด้วยการเสริมจมูกอย่างถูกต้อง โดยแพทย์ผู้ชำนาญ
หากเกิดปัญหาดังกล่าวแพทย์จะแนะนำให้แก้จมูกใหม่ด้วยการใส่ซิลิโคนที่ผ่านการเหลาตกแต่งแบบเคสต่อเคส เพื่อป้องกันไม่ให้ซิลิโคนยาวหรือสั้นจนเกินไป ช่วยให้ซิลิโคนที่ใส่รับกับโครงสร้างจมูกและใบหน้าของคนไข้มากที่สุด เนื่องจากการเหลาซิลิโคนจมูกให้ได้ทรงสวยพอดีและปลอดภัย นอกจากจะป้องกันความผิดปกติของรูจมูกได้แล้วยังช่วยให้ใบหน้าดูหวานมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้คุณควรหาข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์ที่เราต้องการรักษาในเบื้องต้น เพราะการเหลาซิลิโคนให้สวยและเข้ารูปนั้นจะต้องเป็นแพทย์ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์สูง ซึ่งแพทย์จะใช้เทคนิคการทำจมูกแบบโอเพ่น (Open Reconstruction, Open Rhinoplasty) เป็นการเปิดแผลผ่าตัดบริเวณฐานจมูกทั้ง 2 ข้าง เพื่อเสริมหรือแก้จมูก ทำให้เห็นภายในโครงสร้างจมูกทั้งหมดชัดเจน รวมไปถึงซิลิโคน, ไหม หรือสารแปลกปลอมที่เคยฉีดบริเวณจมูก ช่วยให้แพทย์สามารถวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างแม่นยำ เพื่อการแก้ไขที่ตรงจุดและเพิ่มความสวยงาม เสริมโหงวเฮ้งใบบนหน้าอีกด้วย ซึ่งวิธีนี้จะช่วยแก้ไขทรงจมูกที่เทคนิคการเสริมจมูกแบบปิด (Close Rhinoplasty) ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเน้นการใช้ซิลิโคนเสริมจมูกให้โด่งขึ้นเพียงอย่างเดียว
ป้องกันปัญหารูจมูกผิดปกติจากการศัลยกรรม ทำได้อย่างไรบ้าง
1. แพทย์ควรเลือกซิลิโคนเสริมจมูกให้เข้ากับใบหน้า
- ซิลิโคนแบบนุ่มมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อบริเวณสันจมูกน้อย หรือเนื้อบางมากจนดึงเนื้อบริเวณสันจมูกขึ้นมาไม่ได้เลย
- ซิลิโคนแบบนิ่ม หรือแบบซิลิโคนเกาหลี เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อสันจมูกไม่มากและไม่น้อยเกินไป สามารถเหลาซิลิโคนให้มีรูปทรงสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เห็นเป็นแท่งชัดเจน
- ซิลิโคนที่มีความแข็งในระดับกลาง เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อบริเวณสันจมูกเยอะ เนื่องจากเนื้อจมูกที่หนาอยู่แล้วจะช่วยให้เห็นขอบสันของซิลิโคนไม่ชัดเจน บวกกับเนื้อจมูกที่หนาจะมีแรงรัดมาก หากใช้ซิลิโคนนิ่มอาจไปรัดจนซิลิโคนบิดเอียงในอนาคต
2. ดูแลจมูกหลังการรักษาอย่างถูกวิธี
สาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากเสริมจมูก ส่วนหนึ่งมาจากการดูแลตัวเองของคนไข้ หากละเลย ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด อาจทำให้แผลหายช้าและรูปทรงบิดเบี้ยวจากแผนการรักษา จนอาจเกิดจมูกทะลุซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจเป็นอันตรายจนถึงแก่ชีวิต ดังนั้นคุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำหลังเสริมจมูก ดังนี้
- โดยปกติแล้วจมูกจะบวมมากภายใน 3-4 วันแรก หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ลดลงเป็นปกติภายใน 1 เดือน รวมถึงมีอาการบวมเขียวที่จมูก หรือใต้ตาทั้ง 2 ข้าง
- ทานยาตามหมอสั่งจนครบ ถ้ามีอาการแพ้ยา เช่น มีผื่นแดง, คลื่นไส้ อาเจียน, แน่นหน้าอก ให้หยุดยาแล้วรีบมาพบแพทย์
- ประคบเย็น 3 วันแรก หลังจากนั้น ให้ประคบร้อน จนอาการช้ำค่อย ๆ หาย
- มาตามนัดตัดไหม 7 วัน เช่น ผ่าตัดวันนี้ ให้เริ่มนับ 1 ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ และตัดไหมใบหู 14 วัน
- งดสุราและบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ งดทานอาหารแสลง เช่น หน่อไม้ดอง, อาหารทะเล และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- งดกิจกรรมบางอย่าง เช่น การออกกำลังกาย, การก้มเงยหน้า, งดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- ควรนอนหมอนสูงหน้าตรง หรือใช้หมอนรองคอ เพื่อลดความรู้สึกปวดศีรษะ, จมูก และใบหน้า
- งดล้างหน้าแรง ๆ และงดใช้เครื่องสำอางซักระยะ แนะนำให้ใช้คลีนซิ่งเช็ดใบหน้าแทน
- หลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำโดนบริเวณแผลผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หากมีน้ำมูกอุดตัน ให้ดื่มน้ำตามมาก ๆ เพื่อบรรเทาอาการ ห้ามสั่งน้ำมูกแรง ๆ เด็ดขาด
- ใช้ติดขาแว่นไว้ขมับสัก 2 สัปดาห์ ไม่ควรสวมแว่นบนสันจมูก
- ห้ามใช้น้ำเกลือและเบตาดีนปั่นในรูจมูก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
สำหรับใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถรับชมคลิปวิดีโอจากทางเราได้ที่ลิงก์นี้ได้เลยครับ
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน