หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ และกำลังมองหาวิธีที่นอกเหนือจากวิธีรักษาโดยธรรมชาติ ซึ่งเห็นผลช้าและใช้เวลานาน วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับหนึ่งในนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย นั่นก็คือการทำ PRP ใต้ตา ว่าแต่การรักษาด้วยวิธีนี้มีขั้นตอนอย่างไร ต้องทำบ่อยแค่ไหน มาอ่านไปพร้อมกันเลยครับ
PRP ใต้ตาคืออะไร
PRP หรือ Platelet Rich Plasma เป็นกระบวนการรักษาปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ โดยแพทย์จะเจาะเลือดผู้เข้ารับการรักษา 20 cc จากนั้นจึงนำมาปั่นด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อแยกชั้นของพลาสมา (Plasma) ที่มีเกล็ดเลือดและโกรวท์แฟคเตอร์เข้มข้น (Growth factor) ซึ่งเป็นสารกระตุ้นการเจริญเติบโตที่ทำหน้าที่กระตุ้นเซลล์ให้เกิดการแบ่งตัวในร่างกาย เพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนที่สึกหรอและกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นจึงสกัดเอาเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูงกว่าเลือดทั่วไป 3-4 เท่า มาฉีดบนใบหน้าของผู้เข้ารับการรักษา เพื่อซ่อมเเซมและฟื้นฟูผิวให้กลับมาเปล่งปลั่งอีกครั้ง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ตา ทำให้ใต้ตาดูสว่างขึ้นและลดริ้วรอยรอบดวงตา ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเมคอัพปิดรอยคล้ำใต้ตาอีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการอักเสบของผิว, รอยคล้ำจุดด่างดำ ฝ้า กระ, ฟื้นฟูระบบไหลเวียนโลหิตบนใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ส่วนระยะเวลาการรักษาควรทำ PRP ซ้ำอย่างน้อย 2-3 ครั้ง และเว้นระยะห่างประมาณ 4-6 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์)
สาเหตุที่ทำให้ใครหลายคนต้องทำ PRP
- กรรมพันธุ์ หากคนในครอบครัวมีปัญหาใต้ตาคล้ำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ หรือปู่ย่าตายายก็ตาม ลูกหลานก็มีโอกาสที่จะมีใต้ตาคล้ำได้เช่นกัน
- อายุเพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวรอบดวงตาบางลง ส่งผลให้เห็นเส้นเลือดดำง่ายขึ้น
- พักผ่อนน้อย นอนดึกเป็นประจำ หากคุณพักผ่อนน้อยจนเกินไป อาจทำให้เส้นเลือดรอบดวงตาไหลเวียนได้ไม่ดีเท่าที่ควร เส้นเลือดดำจึงขยายตัวและเห็นรอยคล้ำชัดเจน
- โรคภูมิแพ้ อันเนื่องมาจากอาการบวมของเยื่อบุโพรงจมูกและขัดขวางการไหลเวียนของหลอดเลือดดำ ทำให้ขอบตาดำและบวมขึ้น
PRP ใต้ตา อยู่ได้นานไหม
การฉีด PRP 1 ครั้ง โดยทั่วไปจะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปีถึง 1 ปีครึ่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของผู้เข้ารับการรักษาด้วยครับ
ใครบ้างที่ไม่ควรทำ PRP
- ผู้ป่วยโรคมะเร็งและผู้ป่วยติดเชื้อ
- ผู้ป่วยโรคโลหิตจาง
- ผู้ป่วยโรคผิวหนังบางประเภท
- ผู้ป่วยที่ทานยาสลายลิ่มเลือด หรือยาต้านเกล็ดเลือด
- ผู้ที่มีปัญหาเลือดแข็งตัวผิดปกติ
- ผู้ที่มีผื่น หรือติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
- คุณแม่กำลังตั้งครรภ์
เตรียมตัวอย่างไรก่อนทำ PRP
- พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 1.5-2 ลิตร
- งดทานอาหารที่มีไขมันสูง
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนทำ PRP
- งดทานยาต้านการอักเสบและการแข็งตัวของเลือดในกลุ่ม ASA หรือ NSIAD อย่างน้อย 2-3 วัน
- งดแต่งหน้าในวันที่เข้ารับการรักษาอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้แพทย์รักษาได้สะดวกยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการทำ PRP ใต้ตา
- แพทย์ทำการประเมินใบหน้าเพื่อตรวจเช็กผิวใต้ตาที่มีปัญหา
- แพทย์ทำความสะอาดใบหน้าของผู้เข้ารับการรักษา
- แพทย์ทายาชาบนใบหน้า อย่างน้อย 20-40 นาที
- แพทย์จะเก็บตัวอย่างเลือด ประมาณ 15-20 cc เพื่อนำเลือดมาสกัดและแยกส่วนด้วยเครื่อง Centrifuge เพื่อให้ได้เกล็ดเลือดเข้มข้นที่สุด ประมาณ 5-7 มิลลิลิตร
- แพทย์นำเกล็ดเลือดที่ได้มาฉีดบริเวณใต้ตา
ดูแลตัวเองอย่างไรหลังจากทำ PRP
- หลีกเลี่ยงการล้างหน้าประมาณ 4-5 ชั่วโมงแรกหลังจากทำ PRP
- หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ใบหน้า
- งดแต่งหน้าอย่างน้อย 1 วัน
PRP ใต้ตา เจ็บไหม
เนื่องจากวิธีการรักษาประเภทนี้เป็นการนำเกล็ดเลือดของผู้เข้ารับการรักษามาใช้ ดังนั้นร่างกายจึงไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านกับเกล็ดเลือด จึงไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดใด ๆ เพียงแต่อาจจะรู้สึกอุ่น ๆ บริเวณที่ฉีดในช่วงแรกเพียงแค่ 10-15 นาทีเท่านั้น บางรายอาจมีอาการบวมหรือฟกช้ำเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน หรือ 2-3 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล)
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน