ชั้นตาไม่เท่ากันเกิดจากอะไร ควรรักษาอย่างไรดี

ชั้นตาไม่เท่ากันเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งที่ควบคุมได้และไม่ได้ แต่รักษาได้ด้วยการรักษาที่ถูกวิธีโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ วันนี้เราจะมาดูกันว่าควรแก้ปัญหานี้อย่างไรเพื่อให้ผลลัพธ์ในการรักษาออกมาดีต่อคนไข้มากที่สุด

ชั้นตาไม่เท่ากันคืออะไร

แม้ว่าธรรมชาติของดวงตามนุษย์จะไม่เท่ากันอยู่แล้ว 100% แต่ก็ไม่ถึงขั้นกับเห็นได้ชัด แต่ชั้นตาไม่เท่ากันเป็นลักษณะผิดปกติของชั้นตาทั้ง 2 ข้างที่มีขนาดไม่เท่ากัน ดูแล้วไม่สมดุล ยกตัวอย่างเช่น คนที่มีชั้นตาข้างหนึ่งใหญ่กว่าอีกข้าง หรือคนที่มีคิ้วไม่เท่ากัน ข้างหนึ่งอยู่ในตำแหน่งสูงกว่าอีกข้าง หรือบางกรณีอาจเกิดจากปัจจัยภายใน เช่น ผู้ที่กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ทำให้ดวงตาเปิดได้ไม่เท่ากันและลืมตาได้ไม่เต็มที่ หรือผู้ที่มีโครงกระดูกเบ้าตาไม่เท่ากัน ทำให้ดวงตาไม่เท่ากันตามไปด้วย ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้สาว ๆ หลายคนใช้ชีวิตลำบากขึ้น เช่น มองได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือแต่งหน้าลำบาก ใช้เวลามากขึ้น

สาเหตุของชั้นตาไม่เท่ากัน

• พันธุกรรม
• โครงสร้างของใบหน้าที่ไม่สมดุล เช่น คิ้วและโหนกแก้มไม่เท่ากัน
• อายุเพิ่มมากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณตาหย่อนคล้อยลงมาปิดทับชั้นตา
• มีโรคประจำตัว เช่น ภูมิแพ้ ทำให้รู้สึกคันตาบ่อยและต้องขยี้ตา ทำให้ไขมันบริเวณชั้นตาสลายไป
• ปัญหากรามเบี้ยว เนื่องจากการเคี้ยวอาหารไม่เท่ากันหรือเน้นการเคี้ยวอาหารข้างเดียว
• การนอนตะแคงเป็นประจำ ทำให้กล้ามเนื้อตาข้างใดข้างหนึ่งหย่อนคล้อย
• เคยประสบอุบัติเหตุและกระทบกระเทือนบริเวณรอบดวงตา
• พฤติกรรมที่ทำจากความเคยชิน เช่น ขยี้ตาแรง ๆ

แก้ปัญหาชั้นตาที่ไม่เท่ากันได้อย่างไรบ้าง

ทางธีระธรฌ์คลินิกมีวิธีรักษาปัญหาชั้นตาที่ไม่เท่ากันทั้งหมด 4 ประเภท ดังนี้

1. แบบกรีดสั้น

วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังตาไม่หนามากเกินไป, มีไขมันตาน้อย, ผิวหนังตาบาง, มีตาชั้นเดียว, คิ้วไม่ตกและหนังตาไม่เกิน โดยศัลยแพทย์จะพิจารณาก่อนว่าทำออกมาแล้วสวยไหม เพราะหากกรีดสั้นไปแล้ววงตาไม่คม ตาสองชั้นที่ออกมาจะดูไม่สวย นอกจากนี้ยังต้องดูตำแหน่งด้วยว่าจะกรีดตรงไหน เช่น หัวตา, กลางตา หรือท้ายตา เนื่องจากจะต้องกรีดเป็นแผลเล็ก ๆ ประมาณ 7 มิลลิเมตร จึงใช้เวลาทำไม่นานและบวมช้ำน้อย นอกจากนี้อาจเพิ่มเทคนิคการเย็บ โดยแพทย์จะเย็บแบบ 3 หรือ 5 จุด แล้วแต่เคส ข้อเสียของการรักษาประเภทนี้อาจทำให้คนไข้รู้สึกว่าสูงไป กว่าจะเข้าที่อาจใช้เวลา 1 – 2 ปี ส่วนข้อดีคือใช้เวลาในการผ่าตัด 30 – 40 นาที และใช้เวลาพักฟื้นน้อยเพียง 3 – 5 วัน

2. แบบกรีดยาว

เป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลค่อนข้างดีมาก ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานกว่า สามารถบังคับวงตาได้ดี เพียงแต่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน ทั้งนี้ต้องดูก่อนว่าคนไข้ชอบชั้นตาแบบไหน ต้องมีรูปแบบตามาให้ดู เนื่องจากการทำตากรีดยาวสามารถบังคับวงตาได้ เช่นเส้นที่หัวตา อยากให้เป็นเส้นหัวตาแบบฝรั่ง หรืออยากให้เส้นหัวตาโค้งจิกลงมาที่มุมหัวตาพอดีแบบเอเชีย ซึ่งชั้นตาทั้ง 2 แบบนี้จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของการเย็บตาด้านใน มีจุดที่จิกให้เป็นชั้นหัวตาตรงตำแหน่งนั้น อยากให้เป็นแบบไหนก็ต้องจิก บางเคสอาจจะต้องเย็บแบบเปิดหัวตาและหางตา เพื่อให้ตาดูเฉี่ยวขึ้น ส่วนระยะเวลาในการผ่าตัดอยู่ที่ประมาณ 45 – 60 นาที และเวลาพักฟื้นอาจใช้เวลาประมาณ 5 – 7 วัน

3. แบบเปิดหัวตาและหางตา

หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันในชื่อว่า การทำตาแบ๊ว หากรักษาที่เกาหลีจะมีการเปิดหางตาด้วย แต่ว่าการเปิดหัวตาและหางตาในไทยไม่นิยมทำ เพราะอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นหางตาที่รู้สึกว่ามันแดงในบางเคส หรืออาจมีน้ำตาคลอบริเวณหางตาเยอะเกินไป การรักษาประเภทนี้จะช่วยให้ดวงตาดูกลมโตมากขึ้น ส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 30 – 45 นาที และเวลาพักฟื้นประมาณ 5 – 7 วัน

4. แบบเปิดตาดำ (เทคนิคเฉพาะหมอกัน)

เหมาะสำหรับบางกรณีเท่านั้น เช่น คนไข้ที่ขาดไขมันบนตา, มีไขมันชั้นตาด้านบนหนาเหมือนตาสามชั้น ต้องเลาะและตัดไขมันออกมาเย็บติดกับกระดูกขอบตาด้านบน จนกลายเป็นตาสองชั้นที่สวยขึ้น แต่บางกรณีอาจเย็บขึ้นแล้วไม่พอดี จะต้องเติมไขมันเข้าไป บางเคสตาหลบในมาก ทำให้เห็นเป็นตาสามชั้นซึ่งเกิดจากการทำศัลยกรรมตาที่อื่นมาก่อน หรือตัดไขมันตาออกมากเกินไป นอกจากนี้ยังมีเคสของคนไข้ที่มีไขมันน้อยตั้งแต่เกิด ต้องทำตาแบบกรีดสั้นหรือแบบเย็บ ในกรณีที่เป็นคนผิวบาง มีไขมันน้อย เมื่ออายุมากขึ้น ตาก็จะหลบในมากขึ้น เวลารักษาอาจต้องเติมไขมันเข้าไปด้วยเพื่อให้ตาดูสวยขึ้น ส่วนการเปิดตาดำเล็กน้อย จะช่วยให้ดวงตาดูอิ่มขึ้นและเด็กลงในบางเคส ซึ่งการรักษาแบบนี้จะใช้เวลาในการผ่าตัด 40 – 60 นาที และใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 5 – 7 วัน

จากประสบการณ์การรักษาที่ผ่านมา พบว่าหลาย ๆ เคสที่มีคิ้วตกเยอะและมาปรึกษาตาสองชั้น แต่กลายเป็นว่ายกคิ้วแล้วสวยขึ้นกว่าเดิมก็มี หากคนไข้มีปัญหาเรื่องคิ้วตก ผมขอแนะนำให้ยกคิ้วเลยดีกว่า เพื่อให้ได้ตาที่เป๊ะและสวยมาก ถ้าหากฝืนทำตาสองชั้นต่อไป ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่เป๊ะเหมือนที่วางแผนไว้ เนื่องจากคนไข้ที่คิ้วตกจะต้องทำชั้นตาให้สูง ถ้าฝืนยกคิ้วหลังทำตาสองชั้น ตาอาจจะดูประหลาดกว่าเดิม

วิธีดูแลดวงตาหลังทำตาสองชั้น

• ใช้ผ้าเย็นประคบรอบดวงตาและหน้าผาก เพื่อลดอาการบวมและเลือดซึมออกในช่วง 2 วันแรก
• ให้ประคบด้วยน้ำอุ่นเพื่อลดรอยช้ำในช่วงวันที่ 3 – 5 หลังจากผ่าตัด
• ห้ามให้แผลโดนน้ำ โดยเฉพาะเมื่อต้องอาบน้ำ, ล้างหน้าและสระผม (แนะนำให้สระผมก่อนผ่าตัด เพื่อเลี่ยงแผลไม่ให้โดนน้ำ)
• งดทานอาหารรสจัดและของหมักดอง
• งดการใช้สายตาเป็นเวลานานและงดขยี้ตา
• งดการใช้เครื่องสำอางบริเวณใบหน้า เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกเข้าสู่แผลผ่าตัดจนเกิดการติดเชื้อ
• เวลานอนหนุนหมอนยกศีรษะให้สูง เพื่อลดอาการบวมรอบดวงตา
• ทานยาตามแพทย์สั่ง
• มาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

ทำไมต้องทำตาที่ YKJ Medical Center?

หมอกัน หรือ นพ.รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ (อาจารย์แพทย์ผู้สอนเทคนิคการผ่าตัดปรับโครงสร้างจมูกแบบ Open Reconstruction ให้แก่แพทย์ด้านความงามทั่วประเทศไทย) ผู้มีประสบการณ์ด้านความงามมามากกว่า 20 ปี คุณหมอได้ทำการศึกษาและผสมผสานระหว่างศาสตร์และศิลป์ในการออกแบบรูปหน้า รูปทรงจมูก ให้ถูกใจคนไข้มากที่สุด ตามหลัก Fibonacci ratio และปรับโหงวเฮ้งตามความต้องการของคนไข้ โดยยึดหลักการออกแบบให้ดูสวยขึ้น แต่ยังคงความเป็นอัตลักษณ์ของตนเองอยู่ ปรับเปลี่ยนโดยไม่เสียความเป็นตัวเองไป เพราะหมอกันเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนมีความสวยของตนเอง

บทความที่น่าสนใจ

• จมูกสั้นรักษาดีมั้ย แก้เป็นทรงจมูกแบบไหนดี
• เสริมจมูกชมพู่อย่างไร ให้เสริมออร่ายิ่งกว่าเดิม
• อย่าปล่อยให้จมูกพังจากการแก้จมูกโดยหมอที่ไม่ได้มาตรฐาน