การฉีดไขมันหน้า (Fat Transfer) เป็นหนึ่งในวิธีปรับรูปหน้า เพื่อช่วยให้ใบหน้ามีความเต่งตึงขึ้น ริ้วรอยจางลง และช่วยให้หน้าดูเด็กลงครับ หรือที่นิยมเรียกกันว่า การฉีดไขมันหน้าเด็ก ซึ่งในปัจจุบันการฉีดไขมันที่หน้าเพื่อทำหน้าให้ดูเด็ก อ่อนเยาว์ลงเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทย ทำให้สาวๆหลายคนคงพอทราบขั้นตอนการทำมาบ้าง ส่วนใครที่ยังไม่ทราบว่าการฉีดไขมันหน้า คืออะไร สามารถตามไปอ่านบทความของหมอได้ที่นี่เลยครับ ฉีดไขมันหน้าเด็ก
ฉีดไขมันที่หน้า กี่วันหายบวม?
สำหรับบทความนี้หมอจะมาให้คำตอบ ปัญหาเรื่อง ฉีดไขมันกี่วันหายบวมกันครับ การฉีดไขมันที่หน้า เป็นการเพิ่มความเติมเต็มของใบหน้าที่กำลังนิยมในปัจจุบัน นอกจากจะช่วยเรื่องหน้าเด็ก ยังเป็นการปรับโหงวเฮ้งอีกด้วย ไขมันส่วนที่นำมาใช้สามารถดูดได้ทั้งต้นขาและหน้าท้อง เพราะเป็นส่วนที่มีไขมันมากที่สุดในร่างกาย ดูดด้วยเทคนิคแบบคงสภาพในการรักษาสเตมเซลล์ ทำให้ได้ไขมันที่มีคุณภาพ และบริเวณที่ถูกดูดไม่เป็นคลื่น หลังจากนั้นนำไขมันไปปั่น เพื่อแยกไขมัน น้ำ ยาชา น้ำเกลือ และเลือดออกจากกัน จึงจะได้เซลล์ไขมันที่สมบูรณ์ เป็นมวลไขมันที่เข้มข้น มีโอกาสที่เซลล์ไขมันจะติด ทน และมีคุณภาพสูง จากนั้นใส่ Stem cell ,น้ำเลี้ยงสเต็มเซลล์, Growth Factor, PRP, Exosome และ สารตั้งต้นสร้าง Collagen-เส้นเลือด ลงไปในมวลไขมันที่เข้มข้น นับว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้ได้ไขมันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และนำมาฉีดเข้าที่บริเวณทั่วใบหน้า ให้ดูเต็มขึ้นดูเด็กขึ้น หลังจากเติมไปแล้วคนไข้มักจะมีอาการหน้าบวมจากฉีดไขมัน หมอขอแบ่งเรื่องบวมออกเป็น 2 ลักษณะการบวมครับ
1.การบวมหลังจากการฉีดไขมัน
โดยปกติร่างกายของคนเราเมื่อทำการผ่าตัด หรือ จะมีปฏิกิริยา การอักเสบหรือการบวมเกิดขึ้นได้เป็นปกติ มากน้อยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การดูแลร่างกาย พักผ่อนเพียงพอ ปกติแล้วเป็นคนช้ำง่ายไหม โดยการบวมจากการผ่าตัดนี้จะบวมอยู่ที่ 7-14 วันโดยจะบวมมากวันที่ 3-5 สำหรับคนที่ต้องการให้ใบหน้าดูเกาหลี ละมุนสวย หมอจะเติมให้เยอะ จึงมีอาการบวมมาก ส่วนคนที่ต้องการแก้ปัญหาเรื่องหน้าตอบ ขมับตอบ ปรับรูปหน้า ต้องการรูปหน้าแบบธรรมชาติ หมอก็จะเติมในปริมาณที่พอดีครับ ทำให้เคสที่เติมแบบธรรมชาติ มีอาการบวมน้อยกว่า หลังจากระยะนี้เราสามารถออกไป ใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ โดยที่บริเวณใบหน้าจะดูปกติครับ
2.ระยะเข้าที่ของไขมัน
หลังจากระยะแรกที่บวมจากการฉีดไขมันที่หน้า หน้าของคนไข้ที่ทำการฉีดไขมันอาจจะรู้สึกว่าเต็มๆบวมๆ เนื่องจากไขมันที่ฉีดเข้าไปนี่เองครับ โดยคำถามที่คนไข้ส่วนใหญ่กังวลคือ ไขมันจะเข้าที่ตอนไหน? ซึ่งหมอแนะนำว่าประมาณ 1-3 เดือน ไขมันจะเริ่มเข้าที่ ทำให้ใบหน้าของคนไข้ดูเต็มอย่างเป็นธรรมชาติ โดยระหว่างนี้ ทั้งนี้การยุบหรือสลายตัวของไขมัน จะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้หลังฉีดด้วยครับ หมอจึงย้ำกับคนไข้เสมอเกี่ยวกับการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการรักษาไขมันให้ติดได้นานที่สุด
โดยส่วนมาก การฉีดไขมัน สำหรับผู้ที่ฉีดครั้งเดียว จะมีอัตราการติดของไขมันประมาณ 1-2 ปี และผู้ที่มีการฉีดไขมันที่หน้ารอบที่ 2 (ควรฉีดในระยะ 3-6 เดือนหลังจากฉีดครั้งแรก) จะมีอัตราการติดของไขมันอูยู่ได้นานถึง ประมาณ 2-5 ปี ซึ่งการปลูกถ่ายไขมันบริเวณใบหน้าทั่วโลก โอกาสที่เซลล์ของไขมันจะอยู่รอดหลังการปลูกถ่าย พบได้ตั้งแต่ 30 – 80 % ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง แต่ด้วยเทคนิคพิเศษของ หมอกัน รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ พบว่าเทคนิคนี้ มีอัตราการปลูกถ่ายติดอยู่ที่ 70 – 80% และอยู่ได้คงที่แม้ผ่านไป เป็นปีแล้วก็ตาม เซลล์ที่ปลูกติดจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงไปตามน้ำหนักของตัวคนไข้เองด้วย
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
รีวิว : เติมไขมันหน้ากับหมอกัน หน้าเด็กลงเป็น 10 ปี
บทความ : เติมไขมันตา แก้ปัญหาตาลึก
รีวิว : ฉีดไขมันหน้าเด็ก ปังได้ ไม่ต้องไปไกลถึงเกาหลี
ดูรีวิวทั้งหมดของ YKJ Medical Center ได้ที่นี่
ปัญหาหลัก ๆ ที่คนทำศัลยกรรมจมูกมักจะเจอ และคนไข้หลายๆคนเป็นกันมาก ก็คือ เรื่องของ “จมูกทะลุ ” นั่นเองครับ เนื่องมาจากหลายสาเหตุและหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น เนื้อจมูกน้อย ผิวจมูกบางเกินไป แต่อยากเสริมจมูกให้โด่งๆ , ซิลิโคนที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน, เกิดจากการแก้จมูกแล้วแก้จมูกอีก ทำให้เนื้อจมูกบางลง หรือแม้แต่การเสริมจมูกไปนาน ๆ ก็อาจเสี่ยงทำให้จมูกบางลงและเกิดการทะลุได้เช่นเดียวกันครับ ดังนั้นถ้าไม่อยากให้สายเกินแก้ หมอมีวิธีสังเกตง่ายๆ “สัญญาณเตือน จมูกทะลุ” มาฝากครับ
บทความ : ซิลิโคนเสริมจมูก วัสดุที่ใช้เสริมจมูก มีอะไรบ้าง?
บทความ : แก้จมูก ทำไมราคาสูงกว่าเสริมจมูกใหม่ ?
สัญญาณเตือน จมูกทะลุ รู้ก่อนระวังก่อน !!
1.ความยาวเกินไป
ตัวซิลิโคนยาวเกินไป จมูกยาวงุ้มผิดปกติ เนื่องมาจากการเสริมจมูกไปนาน ๆ จะทำให้เกิดเนื้อเยื่อหุ้มบริเวณซิลิโคน ทำให้เนื้อเยื่อมีความหนาและแข็ง จนเกิดการบีบรัดซิลิโคนทำให้เอียงหรือเลื่อนลงมา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้จมูกบางลงจนเกิดการทะลุได้
2.ผิวจมูกค่อนข้างบาง
ผู้ที่มีผิวบริเวณจมูกค่อนข้างบาง อาจจะไม่เหมาะในการทำจมูก เนื่องจากจมูกมักจะทะลุง่ายครับ
3.จมูกมีการรัดแกน
แรกๆอาจจะรู้สึกทรงดี แต่ว่าเวลาผ่านไป มันรัดแกนมากขึ้น และยาวไป โด่งไป จมูกก็จะบิดตัว มันจะเป็นสัญญาณแรกก่อนที่จะทะลุ และจะใสมากขึ้นครับ อ่านต่อได้ที่ บทความ : หลังเสริมจมูก กี่วันเข้าที่ ?เมื่อไหร่จมูกจะรัดแกน?
4.ปลายจมูกเริ่มแดง
เมื่อไหร่ที่เริ่มแดง เป็นสัญญาณเตือน จมูกทะลุที่อันตรายมากครับ เพราะว่า ถ้าเกิดว่ามันทะลุแล้ว จะแก้ไขได้ค่อนข้างยาก จำเป็นต้องถอดจมูก พักจมูก ซึ่งเวลาที่แก้ไข หลังจากที่คนไข้พักจมูกแล้ว รอแก้จมูกต้องรอประมาณเกือบ 1 ปี ครับ ต้องใช้กระดูกซี่โครงในการทำ และต้องทำด้วยเทคนิคโอเพ่น (Open Reconstruction) เท่านั้น ซึ่งวิธีการทำก็ค่อนข้างเสี่ยงและอันตรายครับ
5.ปลายจมูกสะท้อนแสง
จมูกจะสะท้อนแสง มันวาวมากกว่าปกติ หรือมีสีขาวๆ ใสๆ สังเกตง่าย ๆ ที่บริเวณปลายจมูก ถ้ามีอาการแบบนี้แสดงว่าเนื้อที่ปลายจมูกเริ่มบางมาก ๆ แล้วครับ ทำให้มองเห็นผิวของซิลิโคนที่อยู่ใต้ผิวหนังสะท้อนออกมา
6.ลูบปลายจมูกแล้วรู้สึกเสียวๆ
เมื่อซิลิโคนเกิดการดันออกมาอยู่ใกล้ผิวหนังมากเกินไป เป็นสาเหตุให้ผิวจมูกเริ่มบางลง และเมื่อเอามือลูบจะรู้สึกว่าเสียวแปล๊บ ๆ เพราะจมูกมีเซลล์รับสัมผัสที่มากกว่าบริเวณอื่น ๆ และหากผิวยิ่งบางลงเท่าไร ก็จะยิ่งรู้สึกเสียวมากขึ้นด้วยครับ
7.มีสิวหัวช้างที่จมูก
สำหรับใครที่เป็นสิวหัวช้าง กินยา ทายา แล้วไม่หาย อาจเกิดการอักเสบลุกลามทำให้เนื้อเยื่อที่หุ้มซิลิโคนเสริมจมูกเกิดอาการอักเสบ และติดเชื้อได้ ซึ่งการอักเสบนี้จะส่งผลทำให้ผิวหนังบริเวณจมูกบางลง เป็นสาเหตุทำให้ซิลิโคนทะลุได้
8.จมูกมีร่องบุ๋ม
ร่องบุ๋มบริเวณจมูกมักเกิดจากผิวหนังจมูกด้านบนลงมาติดกับขอบของซิลิโคน กลายเป็นพังผืด ทำให้ผิวส่วนนั้นเกิดการรัด จึงทำให้มองเห็นขอบของซิลิโคนได้ชัดมากขึ้น
9.ซิลิโคนโผล่ออกมา
อาการที่ซิลิโคนโผล่ออกมาที่ปลายจมูก เห็นเป็นปลายขาว ๆ ชัดเจนแล้วว่าจมูกของคนไข้เกิดการทะลุแล้ว ให้รีบไปพบแพทย์ด่วน และอย่าจับหรือดึงซิลิโคนออกมาโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้อาการหนักและแก้ไขได้ยากกว่าเดิมครับนอกจากนี้การทะลุของจมูก ที่หมอเห็นเป็นประจำ คือการทะลุ 2 ตำแหน่ง คือ
- การทะลุที่สันด้านบน แต่มันทะลุได้ตลอดแนวตัวด้านบนจะเกิดจากซิลิโคน มันกระดกและไปจิกด้านบนอยู่นานก็ทะลุได้เหมือนกัน
- บริเวณด้านในสันจมูก ถ้าเกิดมันตึงจะมีอาการแดงตลอดเวลา และเห็นเส้นเลือดแดงขึ้นเยอะ จนกระทั่งอาการปลายจมูกแดงเริ่มเปลี่ยนเป็นปลายจมูกใส แปลว่าจมูกกำลังจะทะลุ ถ้าเกิดทะลุด้านบนจะแก้ยากมากครับ
YKJ Medical Center (ชื่อเดิม “ธีระธรฌ์คลินิก”) ก่อตั้งโดยคุณหมอกัน นพ. รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมความงามและการปรับรูปหน้าระดับนานาชาติ ประสบการณ์กว่า 20 ปี โดดเด่นในหลากหลายหัตถการ เช่น เสริมจมูกโอเพ่น , ทำตาสองชั้น , ดึงหน้า , เสริมหน้าอก , ฉีดฟิลเลอร์ และอื่นๆ
คุณหมอกันเป็นผู้บุกเบิกการทำจมูกเทคนิคโอเพ่นรายแรกๆ ในประเทศไทย และได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายด้านความงามหลายครั้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการแก้จมูก การทำจมูกเทคนิคโอเพ่น โดย YKJ Medical Center ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
- “THE MOST TRUSTED OPEN TECHNIQUE RHINOPLASTY SPECIALIST 2023” คลินิกที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการทำศัลยกรรมจมูกโอเพ่นในประเทศไทย จาก HELLO! MAGAZINE ประจำปี 2023
- “THE BEST OF OPEN RECONSTRUCTION RHINOPLASTY” คลินิกยืน 1 ด้านการแก้จมูก และทำจมูกจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่น จากสุดสัปดาห์ ประจำปี 2022 – 2023 สองปีซ้อน
- “Customer High Recognition Award 2023” รางวัลคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma (Filler Restylane) สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ประจำปี 2023
นอกจากคุณหมอกันแล้ว YKJ Medical Center ยังมีแพทย์มากประสบการณ์ท่านอื่นๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถมั่นใจได้เลยว่าเมื่อมาที่ YKJ Medical Center แล้ว จะได้รับมาตรฐานการดูแลรักษาที่ดี ในราคาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
บทความ : ซิลิโคนเสริมจมูก วัสดุที่ใช้เสริมจมูก มีอะไรบ้าง?
ยังไงก็ตาม “การป้องกันย่อมดีกว่าการรอให้มันทะลุแล้ว” ดังนั้นถ้าเกิดใครเริ่มมีสัญญาน เตือนว่ามันเริ่มบาง ก็คือตั้งแต่ด้านบนจนถึงด้านหน้าจมูกจะต้องรีบแก้ก่อนนะครับ